สถานที่เที่ยว เมื่อมาเยือนประเทศสวีเดน 

1.สวนสนุกลิสแบร์ (Liseberg)   ดินแดนแห่งความสนุกสนานของทุกวัย  สามารถเข้ามาเที่ยวชมความสวยงามของสวนสนุกแห่งนี้ได้  เด็กๆก็ชอบ ผู้ใหญ่ก็ปลื้ม มีหลากหลายจุดให้ได้มาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัยดินแดนต่างๆ  เป็นสวนสนุกที่ขึ้นชื่อของสวีเดนเลยก็ว่าได้  

เมื่อมาเยือนประเทศสวีเดน  เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่มีเครื่องเล่นมากกว่า 40 กว่าเครื่องเล่น  เท่านั้นยังไม่พอในสวนสนุกยังมีเวทีมินิคอนเสิร์ตมาเล่นให้ดูด้วยนะคะ  มาสนุกสนานเล่นเครื่องเล่นและฟังเพลงเพราะจากนักร้องดังจากทั่วโลกมาให้ดูและสนุก  แต่สวนสนุกที่นี้จะเปิดเป็นช่วงระยะเวลาประมาณเดือนพฤษภาคมจนถึงตุลาคมของทุกปีแค่นั้น  วางแผนมาเที่ยวกันให้ดีนะคะ 

2.ปราสาทโดรทนิงโฮล์ม   จะตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองสตอกโฮล์ม  ภายในจะเห็นสถาปัตยกรรมต่างๆนาๆ ที่ออกแบบได้อย่างสวยงามและลงตัว บางรูปนั้นคือร้องว้าวได้เลย หากใครที่ชอบทางสายนี้  ดูหรูหรามีราคาสุดๆ  ถึงขั้นได้รับการยกย่องจากยูนิสโก้เลย ให้ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกโลกอีกด้วยนะคะ ใครมาสวีเดนแล้วนั้นก็หาเวลามาชมสถาปัตยกรรมระดับโลกกันคะ 

3.หมู่บ้าน (Smogen)  อย่าพึ่งงง  ค่ะ ว่าแค่หมู่บ้านทำไมถึงต้องมาเยือน ที่นี้จะเป็นหมู่บ้านของชาวประมงแต่บอกเลยคะว่าที่นี้สะอาดมาก  สีสันสวยงาม มีทุกสี เหมือนบ้านที่อยู่ในการตูน  ทำให้ดูมีชีวิตชีวา สหรับผู้มาเห็น และแต่ละหลังยังมีเรือจอดอยู่บ้านของแต่ละหลังให้เห็นจอดเป็นระเบียบเรียบร้อย  ไม่มีเศษขยะเกลื่อนเลย   สะอาดมาก แบบ ก ล้านตัวเลย  ใครไม่เชื่อมาสัมผัสดูแล้วบอกว่าสุดยอดความสะอาด  แถมที่นี้ยังมีห้องพักให้มาพักผ่อน สูดบรรยากาศริมแม่น้ำ วิวทิวทัศน์สวยๆ   ยามค่ำคืนก็นอนฟังเสียงคลื่นจากทะเล  เป็นความฟินสุดๆไปเลยละคะ 

4.โรงแรมน้ำแข็ง   เป็นที่พักที่ทุกคนห้ามพลาดอีกเช่นกัน  เพราะที่นี้จะตกแต่งทุกอย่างเป็นน้ำแข็งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ  เตียง ตู้   ของส่วนใหญ่จะเป็นน้ำแข็งทั้งหมด  ไม่เหมือนที่ไหนเลย มีที่นี้ที่เดียว อากาศนั้นบอกเลยว่าติดลบ  ประมาณ  -5 องศากันเลยทีเดียวใครที่อยากมานอนพักสัมผัสแล้วนั้น หาเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นร่างกายมาเยอะๆ เพราะหนาวจับใจแน่ๆ  ย้ำเลยคะว่าที่นี้ทุกอย่างจะเป็นน้ำแข็งทั้งหมด  ไม่ใช่มีแค่ห้องพักแค่นั้นนะคะ  ยังมีบาร์น้ำแข็ง  หรือโรงหนังที่อยู่ในโรงแรมน้ำแข็งแห่งนี้อีกด้วย 

เพียบพร้อมไปทุกอย่างเลยมาที่นี้  รับรองติดใจล้านเปอร์เซ็น  และ  ufabet ทางเข้าเล่น    หากใครที่อยากมีงานแต่งงานที่ไม่เหมือนใครก็สามารถให้ที่นี้จัดงานแต่งงานก็ได้เช่นกัน   ที่นี้เขารับรองการจัดงานแต่งงาน  รับรองว้าวสุดๆ  ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศดูค่ะ   

วันเดย์ ทริป5 ร้านดังในย่านเมืองกรุง

วันเดย์ ทริป5 ร้านดังในย่านเมืองกรุง

1.สยาม โซนใหม่ 

เป็นสถานที่พึ่งมีขึ้นมาให้กับกลุ่มวัยรุ่นได้มาช้อปปิ้ง หเดินหาของกินในวันหยุดชวนเพื่อนหาสถานที่เที่ยวก็สามารถมาที่นี้ได้เลย มีหลากหลายอย่าง สินค้าแฟชั่น  อาหารก็เยอะ  อาทิเช่น อาหารไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น  รวมไปถึงยุโรป ถือว่าที่นี้มีทุกแบบทุกแนวจริงๆ 

ชาวต่างชาติมารับรองติดใจแน่นอน มีหลากหลายให้ลิ้มลอง  บางจุดก็ทำเพื่อให้เป็นที่ถ่ายรูปเก๋ สวยๆ  ท่ามกลางผู้คนมาเดินเล่น เป็นฟิลเหมือนเดินอยู่กลางเมืองหลวง  แถมช่วงค่ำคืนก็จะมีกลุ่มวัยรุ่นมาแสดงดนตรีให้ฟังด้วย 

2.พาหุรัด-สำเพ็ง 

ชื่อนี้เชื่อว่าทุกคนต้องคุ้นหูมาก เป็นแหล่งรวมสินค้นที่ขายยกแพ็คและจำนวนเยอะ  ส่วนมาก  gclub ทางเข้า ล่าสุด  จะเป็นแม่ค้ามารับซื้อแล้วนำไปขายต่อ  แต่ใช่ว่านักท่องเที่ยวจะไม่สามารถมาเดินได้  ก็เดินเที่ยวชมสินค้า  หากมีสินค้าที่ต้องการก็สมารถซื้อได้ มีขายราคาปลีกให้ราคาไม่แพง  ซื้อไปเป็นของฝาก หรือของจำเป็นที่ใช้ประจำซื้อจำนวนเยอะก็ราคาถูกลง เป็นแหล่งรวมของจริงๆ 

3.วังหลัง 

ที่นี้ก็ของกินเยอะมาก มีร้านที่ขึ้นชื่อเยอะมาก  เดินตรอกซอยไหนก็มีแต่ของกิน  มีร้านเด็ดเยอะมาก วังหลังนั้นมีมาตั้งแต่นานมาก เป็นสถานที่เก่าแก่ ติดวัด เดินทางมาสะดวกสบาย  แค่พกเงินมาเยอะๆ เพราะของกินนั้นเยอะจริงๆ ร้านอาหารที่นั่งกินแอร์เย็นๆ ก็มีหลากหลายร้าน  ร้านเด็ดๆอาทิ หมูทอดชาววัง  ร้านนึ้คือเด็ดมาก ใครเคยลองแล้วต้องมีซื้อซ้ำ  อีกร้านก็เป็นร้านซูซิ อร่อยมากเช่นกัน  และยังมีอีกมากมาย หากวันไหนหยุดก็มาเดินชิม ช้อปกันเยอะๆนะคะ

4.วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่)  

เป็นวัดที่เดินทางมาง่ายมาก และส่วนมากจะมาแก้ชงของแต่ละปีเกิด  มาไหว้สักการะบูชาเติมพลังบุญให้ดำเนินชีวิตได้คลาดแคล้วปลอดภัย  ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์มา   ที่วัดก็มีให้ทุกอย่างแค่เตรียมจิตใจอันบริสุทธิ์มาพร้อมเงินทำบุญ ให้ราบรื่นตลอดทั้งปี

5.JODD FAIRS ตลาดจ๊อดแฟร์

เที่ยวกลางวันมาเยอะแล้วปิดท้ายด้วยตลาดกลางคืนละลายทรัพย์ก่อนนอนพักผ่อน ที่นี้เป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่มาก  ร้านอาหารเสื้อผ้าแฟชั่น   แทบทุกอย่างมีหมดเลยที่เดียว  แค่ยังมีแรงในการเดิน มีร้านดังหลายร้านเช่นกัน ที่ตั้งในโซลเซียลเป็นจุดดึงดูดลูกค้าเข้ามาที่ตลาดนี้  ของกินนี้เยอะจนนับไม่ถ้วน

แต่ไม่ต้องกังวลว่าซื้อแล้วจะไปนั่งกินที่ไหน  ที่ตลาดมีลานให้นั่งกินและมีดนตรีสดเปิดให้ฟังชิลๆอีกด้วยนะ ดีมั้ยละคะ ใครยังไม่เคยไป ลองไปดูนะคะ  ติดกัลป์เซนทรัลพระราม 9 เลย

นักปีนเขาต้องเผชิญกับเขตมรณะบนภูเขาที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างไร

นักปีนเขาต้องเผชิญกับเขตมรณะ เรียนรู้เกี่ยวกับการเดินทางปีนเขาที่กล้าหาญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ดังที่เห็นในสารคดี ’14 Peaks’ ก่อนปี 2019

เวลาในการพิชิตยอดเขา “เดธโซน” ทั้ง 14 แห่งจากระดับความสูง 26,000 ฟุตหรือสูงกว่าของโลกนั้นใช้เวลาเพียงแค่แปดปีเท่านั้น นักปีนเขาชาวเนปาล Nirmal “Nims” Purja ทำได้ภายในหกเดือนกับอีกหกวัน นักปีนเขาคนนี้พูดอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความยากลำบากทางการเงิน ร่างกาย

และอารมณ์ที่เขาเผชิญระหว่างการเดินทางซึ่งมีตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม 2019 ในหนังสือเล่มใหม่ Beyond Possible: One Man, 14 Peaks and the Mountaineering Achievement of a Lifetime

ภารกิจพิชิตยอดเขาทั้ง 14 แห่ง ซึ่งเขาเรียกว่า “Project Possible 14/7” แบ่งออกเป็นสามขั้นตอน ระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2019เขาได้ปีนภูเขา 6 ลูกในเนปาล อินเดีย และจีน ได้แก่ อันนะปุรณะ ทุลาคีรี คานเชนจุงกา ยอดเขาเอเวอเรสต์ ลอตเซ่ และมาคาลู ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2562 เขาสร้างยอดเขาอีกห้าแห่งใน “เขตมรณะ” ได้สำเร็จ ซึ่งก็คือระดับความสูงที่สูงกว่า 26,000 ฟุต ซึ่งระดับออกซิเจนไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในปากีสถาน: Nanga Parbat, Gasherbrum I, Gasherbrum II (GI และ GII), K2, และบรอดพีค

ข้อความที่ตัดตอนมาจากหนังสือของเขาบันทึกการเดินทางของเขาเกี่ยวกับ GI หลังจากการปีนขึ้นไปนี้ เขาได้เดินทางต่อไปยังภูเขาที่เหลือในภารกิจอันยิ่งใหญ่ของเขา: Cho Oyu ที่ชายแดนจีน-เนปาล, Manaslu ในเนปาล และ Xixabangma ในประเทศจีน

เกินกว่าจะเป็นไปได้มหัศจรรย์แห่งการปีนเขา เวลาอยู่กับเรา ฤดูแห่งขุนเขากำลังจะสิ้นสุดลง การเดินทางจาก Nanga Parbat ไปยัง Skardu จากนั้นไปยังค่ายฐานที่ใช้ร่วมกันของ GI และ GII มีกำหนดจะใช้เวลาแปดวัน เส้นทางตัดผ่านพื้นที่ที่ทราบกันว่านักรบตาลีบันลาดตระเวน

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนจะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดจนกว่าเราจะไปถึงเทือกเขา Karakoram เพื่อให้ครอบคลุมเส้นทางของเรามากขึ้น เราจึงตั้งค่ายห่างจากที่พักเดินป่าบนถนน

เราไม่มีเวลาพักผ่อน เราขับรถแบบไม่แวะพักเป็นเวลา 24 ชั่วโมงในช่วงแรกของการเดินทาง โดยทีมงานทั้งหมดและอุปกรณ์ทั้งหมดของเราติดอยู่ในรถมินิแวน เมื่อดินถล่มบนถนนขู่ว่าจะหยุดความก้าวหน้าของเรา เราขนเป้และอุปกรณ์ของเราแล้วบรรจุลงในรถอีกคันที่อยู่อีกฟากหนึ่ง (นักปีนเขาชาวเนปาลบุกโลกของการปีนเขาที่สูงได้อย่างไร)

เราจ้างล่อและลูกหาบเพื่อขนอุปกรณ์ส่วนใหญ่ของเราไปตลอดทาง ฉันขอเพิ่มล่อและคนเฝ้าประตูเป็นสองเท่าเพื่อพยายามไปให้ถึงที่นั่นภายในสามวัน แต่คำขอของฉันกลับไม่เป็นไปตามที่หูหนวก เช้าวันต่อมา ขณะที่เรากำลังจะออกเดินทางจาก Askole ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินป่าส่วนใหญ่ในภูมิภาค Karakoram

พนักงานยกกระเป๋าก็มาถึงพร้อมกับล่อจำนวนเท่าเดิม โดยยืนยันว่ากำลังเสริมไม่มีจุดหมาย ในคืนแรก  ufabet   เรารอประมาณสี่หรือห้าชั่วโมงเพื่อให้ลูกหาบมาตามเราขณะที่เราตั้งค่ายพักแรม สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นในเย็นวันต่อมา และในวันที่สาม

ฉันกลายเป็นบาดแผล ฉันตะคอก “คุณรู้อะไรไหม? พวกคุณมีความสุขมากเกินไปที่จะทำงานในโซนความสะดวกสบายของคุณ เราต้องเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้น”

ฉันเช็คอินกับทีมของฉัน Mingma, Geljen, Gesman และคนอื่นๆ “หากเราแบกอุปกรณ์ปีนเขาได้ด้วยตัวเอง เราจะเร็วกว่านี้มาก เต็มใจไหม” ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน เราออกจากแคมป์ตอนตี 4 และมาถึงจุดต่ำสุดของ GI ประมาณ 17.00 น. ซึ่งครอบคลุมระยะทาง 34 ไมล์ใน 13 ชั่วโมง ในขณะที่แบกน้ำหนักมากกว่า 75 ปอนด์ต่อคน

พวกเราทุกคนอ่อนล้าแต่ไม่แตกสลาย แม้จะต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อไปให้ถึงที่นั่น แต่ฉันก็รู้สึกพร้อมสำหรับภารกิจที่ยืดเยื้อนี้ มั่นใจว่าเราสามารถรับมือกับบททดสอบข้างหน้าได้ แต่ก็ให้ความเคารพต่อสิ่งที่ฉันกำลังจะทำ (เราปีนเอเวอเรสต์เพื่อไขปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมัน)

เมื่อตั้งรกรากอยู่ที่เบสแคมป์ ฉันสังเกตเห็นว่าพายุกำลังก่อตัว แต่ก็กังวลเล็กน้อย ทีมของฉันมีทรัพย์สินที่จะเอาชนะอันตรายใดๆ ก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว การปีนระดับความสูงสุดขั้วเป็นเกมฝึกสมองพอๆ กับความพยายามทางกายภาพ “นี่ของคุณนิมส์ นี่คือที่ที่คุณมีชีวิตชีวา” ฉันบอกตัวเอง

กินและดื่มอะไรในออสเตรเลีย

กินและดื่มอะไรในออสเตรเลีย ไม่นานมานี้ชาวออสเตรเลียจำนวนมากรอดชีวิตจากอาหารแองโกล-ออสเตรเลียที่มีเนื้อสัตว์และผักสามอย่าง อาหารชั้นเลิศคือเนื้อย่างในวันอาทิตย์

และครัวซองต์ก็จัดว่าซับซ้อนและแปลกใหม่ด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ การรับรสได้พัฒนาขึ้น และวงการอาหารของออสเตรเลียก็น่าตื่นเต้น แปลกใหม่ และเป็นอาหารฟิวชั่นที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศ โดยมีไวน์ที่ได้รับรางวัล กาแฟระดับโลก ความชื่นชมอย่างลึก

ซึ้งในผลผลิตออร์แกนิกที่ยั่งยืน และอุตสาหกรรมคราฟต์เบียร์ที่เฟื่องฟู ภูมิอากาศและภูมิประเทศที่หลากหลายของออสเตรเลีย ตั้งแต่ชนบทห่างไกลไปจนถึงชายฝั่ง จากเขตร้อนทางเหนือไปจนถึงภาคใต้ที่มีอากาศหนาวเย็น เหมาะแก่การผลิตอาหารที่น่าประทับใจมากมาย

ในขณะที่เจ้าของดั้งเดิมของดินแดนมักจะรู้จักความโปรดปรานที่เป็นรสชาติพื้นเมืองของชนพื้นเมือง แต่ในที่สุดคนที่เหลือในประเทศก็เริ่มรู้จักมัน นี่คือสิ่งที่จะกินและดื่มในออสเตรเลีย

แทะเล็มเกี่ยวกับออสเตรเลียสมัยใหม่ วลี Modern Australian (Mod Oz) ได้รับการบัญญัติขึ้นเพื่อจัดประเภทอาหารออสเตรเลีย

ร่วมสมัย: การผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก การหมุนวนของมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรแปซิฟิก เฟื่องฟูของฝรั่งเศสและอิตาลีแท้ๆ การอพยพเป็นกุญแจสำคัญในการปรุงอาหารนี้ ผู้อพยพที่หลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งจากยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

ได้แนะนำส่วนผสมใหม่ๆ และวิธีการใหม่ๆ ในการใช้ลวดเย็บกระดาษ เวียดนาม ญี่ปุ่น ฟิจิ – ไม่ว่าอาหารจะมาจากที่ใด มีชุมชนชาวต่างชาติและคนในท้องถิ่นที่สนใจอยากทำอาหารและรับประทาน

เติมพลังให้กับแฟลตไวท์ กาแฟเป็นสิ่งเสพติดของชาวออสเตรเลียและถือปฏิบัติอย่างจริงจัง ในขณะที่เมลเบิร์นมักถูกมองว่าเป็นเมืองหลวงแห่งกาแฟของออสเตรเลีย – สัมผัสได้ดีที่สุดจากการเดินเล่นไปตามตรอกซอกซอยที่เรียงรายไปด้วยคาเฟ่ในใจกลางเมือง

แต่ทุกวันนี้ คุณค่อนข้างยากที่จะหาเมืองหลวง ศูนย์กลางภูมิภาค หรือเมืองชนบทที่มีถนนเส้นเดียวที่ไม่มี ร้านกาแฟชั้นดีที่มีบาริสต้าสุดฮิปคอยชงเบียร์คลื่นลูกที่สาม มีทุกอย่างให้เลือกสรร ตั้งแต่ช็อตเอสเปรสโซแบบคลาสสิกของอิตาลีไปจนถึงการกรองแบบหยดช้า

โดยใช้เมล็ดกาแฟจากแหล่งเดียว แต่ถ้าคุณต้องการกาแฟแบบ “ออสซี่” อย่างแท้จริง (ชาวกีวีอาจโต้แย้งเรื่องนี้) เลือกใช้แฟลตไวท์ (คล้ายกับ ลาเต้ที่มีไมโครโฟมน้อยกว่า)

ลิ้มลองรสชาติของชนพื้นเมือง รสชาติของภูมิประเทศของออสเตรเลีย จากความเข้าใจอย่างเชี่ยวชาญของชาวพื้นเมืองออสเตรเลียเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและความรู้ทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน ในที่สุดอาหารพื้นเมืองที่อร่อยและอุดมด้วยสารอาหารก็ได้รับชื่อเสียงที่สมควรได้รับในแวดวงการทำอาหารของออสเตรเลีย

ส่วนผสมจากพุ่มไม้พื้นเมือง เช่น เนื้อบุช (จิงโจ้ นกอีมู จระเข้) ผลไม้บุช (มะนาวทะเลทราย quandongs ลูกพลัมคาคาดู ไรเบอร์รี่) และเครื่องเทศ (ไมร์เทิลเลมอน เมล็ดเหนียง) เป็นที่ต้องการเพื่อเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสในอาหาร ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ทั่วประเทศ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    gclub ฝาก-ถอน

ข้อมูลที่น่าสนใจ สำหรับการไปเที่ยวภูกระดึง  จังหวัดเลย 

         การไปเที่ยวภูกระดึง  จังหวัดเลย  สำหรับใครที่อยากจะไปพิชิตภูกระดึงบอกได้เลยว่าการเดินทางไปเที่ยวที่นี่ไม่ได้ง่ายนะอาจจะต้องเจอกับความยากลำบากกว่าจะขึ้นไปเจอกับความสวยงามทางธรรมชาติดังนั้นเราจึงนำข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากจะเดินทางไปพิชิตยอดภูกระดึงมาฝากกันว่าคุณจะต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง 

         สำหรับภูกระดึงนั้นตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติภูกระดึงซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดเลย  โดยที่ภูกระดึงแห่งนี้เป็นภูเขาที่ค่อนข้างมีพื้นที่ยาวดังนั้นบางจุดอาจจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 400 ถึง 1,200 เมตรแต่สำหรับจุดที่สูงที่สุดนั้นมีความสูงอยู่ที่ 1316 เมตร ซึ่งอยู่บริเวณคอกเมย 

       อย่างไรก็ตามอากาศบนภูกระดึงนั้นเป็นอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายเรียกได้ว่าไม่มีช่วงไหนอากาศร้อนเลยก็ว่าได้และถ้าหากนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่ภูกระดึงในช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวอาจจะต้องเจอกับอากาศที่ต่ำถึง 0 องศาเซลเซียสเลยก็ว่าได้ 

        สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนสนใจที่จะเดินทางไปพิชิตยอดภูกระดึงนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางเข้าไปเที่ยวในช่วงต้นเดือนตุลาคมไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปีเนื่องจากว่าช่วงเวลาอื่นนั้นทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมความงดงามทางธรรมชาติได้เพราะต้องการที่จะให้ธรรมชาตินั้นได้มีการพักผ่อนหลังจากที่ต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก 

        นอกจากบนภูกระดึงจะมีวิวทิวทัศน์ที่มีความงดงามแล้วยังมีน้ำตกที่มีความสวยงามอีกด้วยดังนั้นถ้าหากว่านักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะไปชมความงดงามของน้ำตกซึ่งมีน้ำตกเยอะๆควรจะเดินทางไปในช่วงตุลาคมซึ่งเป็นช่วงหน้าฝนและถ้าหากใครอยากจะได้บรรยากาศของทะเลหมอกสวยๆก็ควรจะไปช่วงเดือนธันวาคมซึ่งเป็นช่วงหน้าหนาวหรือถ้าหากใครอยากจะไปเห็นต้นไม้เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดงสีส้มอย่างเช่นใบเมลเบิร์นก็ควรจะไปในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งจะตรงกับช่วงกลางเดือนธันวาคมนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามอย่างที่เรารู้กันดีว่าการเดินทางไปบนภูกระดึงนั้นค่อนข้างยากลำบากซึ่ง  Ufabet เข้าสู่ระบบ  หลายคู่ที่เคยเป็นคู่รักและเดินทางไปด้วยกันก็อาจจะเลิกรากันไปได้ดังนั้นเราควรจะต้องเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเตรียมอุปกรณ์ในการเดินทางให้พร้อมไม่

ว่าจะเป็นรองเท้าสบู่ยาสีฟันยารักษาโรคไฟฉายและที่สำคัญอย่าลืมพกเงินไปด้วยเพราะตลอดระยะเวลาในการเดินทางจากตีนเขาไปถึงบนยอดเขาภูกระดึงนั้นจะมีร้านอาหารร้านเครื่องดื่มมาคอยบริการให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว 

         สำหรับใครที่ตัดสินใจจะเดินทางไปพิชิตภูกระดึงแนะนำว่าควรจะเดินขึ้นเป็นบนภูตั้งแต่ในช่วงเวลาเช้าและควรจะขึ้นภูก่อน 14:00 น เพราะหลังจาก 14:00 น ไปแล้วกว่าจะเดินขึ้นไปบนภูนั้นก็อาจจะมืดค่ำและอันตรายได้เพราะระยะเวลาทางในการเดินนั้นต้องเดินไกลถึง 6 กิโลเมตรเลยทีเดียว 

นะนำการเดินทางไปเที่ยวที่หมู่บ้านโป่งแง้น  จังหวัดเชียงใหม่ 

        เที่ยวที่หมู่บ้านโป่งแง้น สำหรับใครที่เป็นนักท่องเที่ยวสายท่องเที่ยวทางธรรมชาติเชื่อว่าอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงของสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ที่ชื่อหมู่บ้านโป่งแง้น กันมาบ้างแล้ว เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวที่ชอบการเที่ยวแบบแนวแอดเวนเจอร์และชื่นชอบความเงียบสงบต้องการไปใช้ชีวิตตามวิถีชีวิตของชาวบ้านชาวเขา

     อย่างไรก็ตามในบทความนี้เราจะพาไปแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางว่าถ้าหากใครอยากจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่หมู่บ้านดังกล่าวนั้นจะต้องเดินทางอย่างไรบ้างและใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานแค่ไหน 

        สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปเที่ยวที่หมู่บ้านโป่งแง้น แนะนำว่านักท่องเที่ยวจะต้องมีการ เข้าไปที่ Facebook ของบ้านโป่งแง้น เพื่อค้นหาที่พักซึ่งจะเป็นโฮมสเตย์และที่พักแนว Camping เพื่อเป็นการสำรองที่พักเอาไว้ก่อนก่อนที่จะมีการเดินทางไปหลังจากที่มีการจองที่พักเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เมื่อถึงวันเดินทางนักท่องเที่ยวสามารถขับรถยนต์ส่วนตัวไปที่อำเภอแม่แตงโดยไปจอดรถทิ้งไว้ที่หมู่บ้านสบก๋าย  หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องนั่งรถตรงหมู่บ้านดังกล่าวเพื่อที่จะได้เตรียมความพร้อมในการเดินทางเข้าไปยังหมู่บ้านโป่งแง้น

           โดยสามารถเลือกวิธีการเข้าไปได้ 2 วิธีนั่นก็คือการเดินเท้าซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมงโดยจะต้องเดินทางประมาณ 4 กิโลเมตรถึง 6 กิโลเมตรหรือถ้านักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะเพลิดเพลินกับความงดงามของแม่น้ำก็สามารถนั่งขอแพไม้ไผ่ไป โดยเส้นทางนี้จะใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานถึง 2 ชั่วโมง

ซึ่งจะต้องมีการทอแพไม้ไผ่เป็นระยะทาง 9 กิโลเมตรอย่างไรก็ตามก่อนที่จะถึงจุดพักนักท่องเที่ยวจะต้องนั่งรถไปยังหมู่บ้านป่าข้าวหลามซึ่งเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตรเรียกได้ว่าไม่ว่าจะเลือกการเดินทางแบบเดินเท้าข้ามเขาหรือทอแพไม้ไผ่ก็ใช้ระยะเวลานานกว่าจะเดินทางไปถึงและใช้ระยะเวลาในการเดินทางแบบสมบุกสมบันไม่แตกต่างกันเลยทีเดียว 

         สำหรับการเดินทางไปเที่ยวที่หมู่บ้านโป่งแง้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีแต่ถ้าหากนักท่องเที่ยวต้องการอากาศที่เย็นสบายและเป็นช่วงที่มีน้ำเยอะซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางด้วยการล่องแพไม้ไผ่ไปได้นั้นแนะนำว่าควรจะเดินทางในช่วงประมาณเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งช่วงนี้ถือได้ว่าเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะมากที่สุดในการไปเที่ยวหมู่บ้านแห่งนี้เลยก็ว่าได้ 

            อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าหมู่บ้านแห่งนี้ อยู่ท่ามกลางป่าเขาดังนั้นอาหารและเครื่องดื่มที่มีการขายให้กับบรรดานักท่องเที่ยวจึงค่อนข้างมีจำนวนจำกัด แต่รับรองได้เลยว่านักท่องเที่ยวจะต้องเพลินกับบรรยากาศทางธรรมชาติอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย    สล็อต ufabet แตกง่าย

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยา 

 

ท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยา  สำหรับใครที่เดินทางไปเที่ยวทางภาคเหนือส่วนใหญ่แล้วก็จะมีการนั่งเครื่องหรือขับรถตรงไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ก็จังหวัดเชียงราย

แต่ใครจะรู้ว่าจังหวัดพะเยาซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งในเขตภาคเหนือนั้นก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายหลายแห่งเลยทีเดียว

ซึ่งจังหวัดพะเยานั้นเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวไม่เยอะมากนักจึงค่อนข้างเงียบสงบหากว่าใครที่ชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ต้องไปแย่งกันเที่ยวแย่งกันกินแนะนำว่าลองมาหาสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยาเที่ยวดูบอกได้เลยว่าจังหวัดพะเยานั้นมีมนต์เสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เป็นของตนเอง

และเหมาะอย่างยิ่งกับการเดินทางมาเที่ยวสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบและหลงใหลความสวยงามของธรรมชาติเพราะเมืองนี้เป็นเมืองที่เงียบสงบเป็นอย่างมากนั่นเอง 

            สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยานั้นมีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นพวกรีสอร์ทที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติหรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นวิวทิวทัศน์ที่มีความสวยงามอย่างเช่นคุณสามารถมองเห็นทะเลหมอกยามเช้าตรู่ได้รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวแนวคาเฟ่ต่างๆและวัดวาอารามโบราณสถานก็มีให้เข้าเยี่ยมชมอีกด้วย

        สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยานั้นมีทั้งร้านคาเฟ่ชื่อดังอย่าง Magic Mountain หรือแม้แต่ม่อนสามเศียรฟาร์มสเตย์

ซึ่งนอกจากจะเป็นคาเฟ่แล้วยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเช่าพื้นที่ในการนอนค้างคืนพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วยหรือจะไปนอนที่คาเฟ่โฮมมี่บ้านต้นเต๋าก็ได้เช่นเดียวกัน  นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นวัดเก่าแก่และน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นวัดนันตารามหรือ  ทางเข้า ufabet มือ ถือ    แม้แต่วัดพระนั่งดินรวมไปถึงวัดอนาลโยทิพยารามเป็นต้นและที่สำคัญที่จังหวัดพะเยานั้น

เป็นจังหวัดที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีน้ำทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเขตภูมิภาคของทางภาคเหนือชื่อว่าทะเลสาบกว๊านพะเยาซึ่งที่นี่บอกได้เลยว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่พะเยาและนอกพื้นที่ต่างก็ชื่นชอบเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

            อย่างไรก็ตามนี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคร่าวๆเพียงไม่กี่ที่ที่ยกตัวอย่างมาให้นักท่องเที่ยวได้เพียงเท่านั้นอันที่จริงแล้วจังหวัดพะเยาถึงแม้ว่าจะไม่ใช่จังหวัดใหญ่และไม่ใช่จังหวัดที่มีความหรูหราความทันสมัยมากนักแต่การใช้ชีวิตของคนพื้นเมืองแบบเรียบง่ายใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติก็เป็นมนต์เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันหาอยากจะใช้ชีวิตแบบนี้

ถ้าหากใครเป็นคนชื่นชอบธรรมชาติชอบความเงียบสงบไม่ได้ชอบแสงสีเสียงนักแนะนำว่าลองแวะมาดูที่จังหวัดพะเยาดูนะคะรับรองเลยว่าคุณจะต้องรู้สึกประทับใจกับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนี้อย่างแน่นอน 

พาเยี่ยมชมความสวยงามของวัดโบราณวัดไชยวัฒนารามจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

      วัดโบราณวัดไชยวัฒนาราม  สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้นโดยปกติแล้วจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวอย่างไม่ขาดสายซึ่งส่วนใหญ่แล้วนะ

เครื่องเที่ยวก็มักจะเดินทางไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆและแวะไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดซึ่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองคู่กับจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาอย่างยาวนานมากมายหลายแห่งเลยทีเดียวนั่นก็คือโบราณสถานซึ่งเคยเป็นวัดในสมัยโบราณมาก่อน

      แน่นอนว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆของจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั่นก็คือวัดไชยวัฒนารามซึ่งแต่เดิมนั้นก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่แล้วเนื่องจากว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมักต้องการมาชมความสวยงามของการก่อสร้างวัดในสมัยโบราณที่มีอายุเก่าแก่หลายร้อยปีในขณะเดียวกันสำหรับคนไทยนั้นอาจจะมีการแวะมาบ้างแต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่มาเที่ยววัดโบราณแบบนี้ก็จะเป็นบรรดานักเรียนนักศึกษาหรือครูคณะครูบาอาจารย์ต่างๆที่พานักเรียนมาทัศนศึกษา

     อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ทางช่อง 3 ได้มีการสร้างละครบุพเพสันนิวาสขึ้นมาแล้วมีการพูดถึงวัดไชยวัฒนาราม

โดยตัวนางเอกนั้นชื่นชอบวัดแห่งนี้มากหลังจากที่ละครเรื่องนี้ ใช้ได้ไม่นานก็ทำให้ผู้คนนั้นสนใจหันมาท่องเที่ยวตามแนวละครช่อง 3 นั่นเองซึ่งส่วนใหญ่คนที่เดินทางมาเที่ยวก็ต้องการที่จะมาถ่ายรูปกับโบราณสถานแห่งนี้โดยมีการแต่งชุดไทยโบราณมายืนถ่ายรูปสวยๆ

        นอกจากนี้ละครเรื่องบุพเพสันนิวาสยังไม่ได้มีการถูกซื้อลิขสิทธิ์จากหลายประเทศซึ่งแน่นอนว่าเมื่อชาวต่างชาติเห็นก็ยิ่งชื่นชอบอยากจะมาเห็นด้วยตาตนเองดังนั้นวัดไชยวัฒนารามในปัจจุบันจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสายที่สำคัญนักท่องเที่ยวเองก็เน้นเที่ยวตามสบายละครช่อง 3 ด้วยการหันมาลองแต่งชุดไทยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดเม็ดเงินจำนวนมหาศาลมาให้กับชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เลยทีเดียว

        สำหรับวัดไชยวัฒนารามนั้นเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ซึ่งเหลือเพียงซากที่มีการผุกร่อนไปตามกาลเวลาแต่ก็ยังคงความสวยงามและยังมองเห็นว่าในอดีตนั้นวัดแห่งนี้มีความยิ่งใหญ่และมีความสวยงามมากเพียงไหนแม้ว่าพระพุทธรูปปางองค์นั้นจะถูกทำลายหรือถูกตัดสินออกไปแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นว่าถ้าหากว่าวัดแห่งนี้ยังคงอยู่ก็จะเป็นวัดที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทยนั่นเอง

         ที่นี่บอกได้เลยว่าน่ามาเที่ยวมากๆและถ้าหากใครสนใจเดินทางมาเที่ยวที่วัดไชยวัฒนารามแนะนำว่าคุณอาจจะเดินทางมาเที่ยวในช่วงเวลาเช้าหรือช่วงเวลาเย็นจะได้ไม่ต้องแดดร้อนมากจนเกินไปโดยที่นี่จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8:30 น เป็นต้นไปและจะปิดให้บริการตอน 16:30 น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าเข้าชมความสวยงามภายในวัดคนละ 10 บาทแต่ถ้าหากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะถูกเรียกเก็บคนละ 50 บาท 

 

สนับสนุนโดย   สล็อต ufabet เว็บตรง

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตาก ถ้ำสีฟ้า

       สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตาก ถ้ำสีฟ้า  ถ้าจะพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตากที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใน unseen ที่กำลังเพิ่งค้นพบได้ไม่นานนั้นและกลายมาเป็นที่นิยมมากเพราะหลายคนอยากจะเห็นด้วยตาตัวเองนั่นก็คือถ้ำสีฟ้านั่นเอง  

เชื่อว่าหลายคนเมื่อได้ยินชื่อถ้ำสีฟ้าแล้วอาจจะไม่ค่อยเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้จะมีสีฟ้าตามชื่อของท่านแต่ถ้ำแห่งนี้มีสีฟ้าตามชื่อจริงๆจึงถูกเรียกว่าถ้ำสีฟ้านั่นเอง         

         สำหรับสถานที่ถ้ำสีฟ้า แห่งนี้นั้นเดิมไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวแต่เป็นสำนักสงฆ์พุทธอุทยานถ้ำสีฟ้า 

ซึ่งผู้คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่นั้นก็จะมาปฏิบัติธรรมมานั่งสมาธิถือศีลภาวนากันแต่หลังจากที่มีคนได้เดินทางมาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้และพบความสวยงามของถ้ำแห่งนี้ก็มีการออกไปร่ำลือกันปากต่อปากจนเกิดการอยากรู้อยากเห็นว่ามีถ้ำสีฟ้าจริงจึงได้มีการเดินทางมาที่ถ้ำแห่งนี้เพื่อพิสูจน์และก็ทำให้ผู้คนนั้นเริ่มทยอยเดินทางมาที่นี่มากยิ่งขึ้นกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวใน Unseen ในที่สุดของจังหวัดตากนั่นเอง 

         สำหรับความงดงามภายในถ้ำแห่งนี้เมื่อนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปในถ้ำจะเห็นว่าท่านก็จะเหมือนท่านอื่นๆทั่วไปที่มีผนังถ้ำที่เป็นโพรงขนาดใหญ่แต่ความแตกต่างจากท่านอื่นๆก็คือถ้ำแห่งนี้นั้นผนังของท่านนั้นจะเรียบเนียนและมีลวดลายที่มีความสวยสดงดงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียวที่สำคัญเมื่อมองไปบนเพดานก็จะเห็นหินงอกหินย้อยที่มีความสวยงามแบบยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าถ้ำแห่งนี้นั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

          เข้าไปด้านในถ้ำจะมีความกว้างเวลาเดินเข้าไปแล้วจะทำให้ทำให้รู้สึกอึดอัดหรือหายใจลำบากเรียกว่าเมื่อเข้าไปลึกๆด้านในนั้นจะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่กันเลยทีเดียวซึ่งแน่นอนว่าด้วยถ้ำแห่งนี้นั้นคือสถานที่ปฏิบัติธรรมเป็นสถานที่สำนักสงฆ์ดังนั้นที่นี่จึงมีพระพุทธรูปอยู่ภายในถ้ำด้วยซึ่งพระพุทธรูปที่มาประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้นั้นเป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบเมียนมาร์เป็นพระพุทธรูปทรงนอน

            โดยนักท่องเที่ยวนั้นสามารถกราบไหว้ขอพรก่อนที่จะเข้าไปชมความสวยงามด้านในถ้ำซึ่งเมื่อเข้าไปบริเวณด้านในถ้ำก็จะเห็นได้ว่าผนังถ้ำด้านในนั้นจะมีสีฟ้าครามสดใสนอกจากนี้ด้านในก็ยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์มากมายอีกหลายรูปประดิษฐานอยู่ด้านในตามซอกหรือต่างๆของหินช่องเล็กช่องน้อยมากมายเต็มไปหมดซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความสวยงามได้แบบไม่มีเบื่อกันลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์ ฟรีเครดิต

แนะนำเที่ยววัดที่จังหวัดนครนายก 

          แนะนำเที่ยววัดที่จังหวัดนครนายก   สำหรับในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังประจำจังหวัดนครนายกซึ่งอันที่จริงแล้วจังหวัดนครนายกถึงจะเป็นจังหวัดที่มีทัศนียภาพที่งดงามอยู่ใกล้กับภูเขาและมีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ความร่มรื่นร่มเย็นแต่ที่จังหวัดนครนายกเองก็มีศาสนสถานที่มีชื่อเสียงโด่งดังและน่าสนใจ

มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักรักษาเยอะแยะมากมายซึ่งในบทความนี้เราจะแนะนำวัดดังๆให้นักท่องเที่ยวได้ทราบกันเผื่อหากใครมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวจังหวัดนครนายกก่อนจะได้กราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดดังกล่าว 

  •        วัดคีรีวัน 

           ที่ตำบลศรีนาวา  อำเภอเมือง    จังหวัดนครนายก   มีวัดที่มีความสำคัญและเป็นวัดเก่าแก่ประจำตำบลชื่อว่าวัดคีรีวันต์ซึ่งวัดแห่งนี้นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากมีผู้คนเดินทางไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ขาดสายโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่วัดแห่งนี้มีพระแก้วมรกตองค์จำลองซึ่งทำมาจากเรซิ่นขนาดใหญ่และมีเครื่องส่งครบทั้งหมด 3 ฤดูเหมือนกับแก้วมรกตจริงเลยทีเดียว

         นอกจากนี้เครื่องทรงแต่ละฤดูนั้นยังมีเครื่องประดับตกแต่งซึ่งประกอบไปด้วยเพชรแท้ถึง 7 กะรัตและทับทิมรวมถึงพลอยแท้อีกเป็นจำนวนมากโดยขนาดขององค์พระแก้วมรกตที่วัดคีรีวันแห่งนี้นั้นมีขนาดหน้าตักกว้างถึง 49 นิ้วในขณะที่มีน้ำหนักถึง 1 ตันและมีความสูงถึง 3 12.9 นิ้วเลยทีเดียว  ซึ่งเพียงแค่องค์พระแก้วมรกตจำลองนี้ก็ทำให้นักท่องเที่ยวอยากไปชมความงดงามกันแล้ว

         อย่างไรก็ตามวัดคีรีวันต์แห่งนี้นั้นนอกจากจะมีองค์พระแก้วมรกตจำลองขนาดใหญ่แล้วตัวเองก็ยังมีลักษณะของสถาปัตยกรรมที่มีความงดงามเป็นอย่างมากตัวพระวิหารนั้นถูกสร้างอยู่บนยอดเขามีลักษณะของการสร้างคล้ายกับประสาทจำลองซึ่งรูปแบบของตัวประสาทนั้นมีการจำลองมาจากสถาปัตยกรรมของขอม

         นอกจากนี้ภายในพื้นที่ของวัดคีรีวันนั้นก็ยังมีพระพุทธรูปทรงปางนาคปรกซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักมาจากไม้ต้นโพธิ์เป็นพระพุทธรูปโบราณเก่าแก่อายุมากกว่า 1000 ปีเรียกว่าหลวงพ่อโพธิ์ซึ่งประชาชนให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากใครไปเที่ยวที่จังหวัดนครนายกแล้วไม่เดินทางไปชมความสวยงามและไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดคีรีวันต์ถือว่าพลาดเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

          อย่างไรก็ตามที่จังหวัดนครนายกนั้นยังมี Landmark ที่สำคัญที่มีการเผยแพร่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนานั้นก็คือพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ซึ่งที่นี่จะมีพระพุทธรูปมากถึง1250 องค์ซึ่งพระพุทธรูปแต่ละองค์นั้นมีขนาดหน้าตักถึง 90 cm อยู่ตรงบริเวณลานขนาดใหญ่

ซึ่งการสร้างพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์สถานแห่งนี้เป็นการจำลองเหตุการณ์ในครั้งที่สาวกของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระสงฆ์มารวมตัวกันชุมนุมอย่างไม่ได้นัดหมายในวันมาฆบูชานั้นเอง  นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปองค์ขนาดใหญ่อีก 1 องค์ซึ่งตั้งประดิษฐานอยู่เป็นพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาฏิโมกข์สำหรับใครที่สนใจอยากจะไปเที่ยวเยี่ยมชมสามารถเดินทางได้โดยสถานที่แห่งนี้จะอยู่ตรงบริเวณริมทางหลวงหมายเลข 3050 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   ufabet