วันแห่งความรักพาแฟนไปเที่ยวไหนดี

สำหรับคู่รักที่มีความรักกันไม่ว่าจะเป็นเพิ่งเริ่มจีบหรือเป็นแฟนกันมานานแล้ว หรืออาจจะคบกันมาหลายปี เราเชื่อว่าวันวาเลนไทน์นั้นทุกคนคงไม่ปล่อยให้มันเป็นแค่วันธรรมดา เพราะหากพูดถึงบุคคลที่รักแฟนพวกเขาก็มักจะเตรียมหาสถานที่ที่จะมีการพาแฟนของเขาไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อเป็นการสวีตกับแฟนของเขานั่นเอง และสถานที่เหล่านั้นที่คุณจะพาแฟนไปวันนี้เราได้นำมาเสนอเผื่อเป็นทางเลือกที่จะพาแฟนไปอวดและไปถ่ายภาพสวยๆเก๋ๆเพื่อเป็นที่ระลึกกัน

สำหรับสถานที่ที่แนะนำให้พาแฟนไปเที่ยวมีดังนี้

ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน สำหรับคู่รักที่ต้องการความโรแมนติกนั้นต้องไปสถานที่นี่เลยคะ เพราะเป็นที่เงียบสงบห่างไกลความวุ่นวาย เป็นการไปก้างเต้นนอนกับคนรู้ใจ หากิจกรรมทำ เป็นการสวีตแบบธรรมชาติ โดยสถานที่นี่ต้องเหมาะกับคู่รักที่ต้องการเป็นการส่วนตัวนะ เพราะมีแต่ป่าเขาแม่น้ำ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นส่วนตัวเหมาะกับคนที่รักกันมากอยากอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง

ภูลมโล เลย สำหรับที่นี่เป็นที่ที่เหมาะแก่การถ่ายรูปคู่รักมากที่สุด เพราะที่นี่มีการปลูกต้นต้นนางพญาเสือโคร่งหรือต้นซากุระเมืองไทยไว้เต็มป่าเลยแหละ เรียกได้ว่าหันไปทางไหนก็เจอแต่สีชมพู และเป็นอะไรที่หวานสุดๆ เหมาะสมกับคู่รักที่มีความหวานต้องการสวีต แต่นั้นก็ต้องที่จะชอบถ่ายภาพด้วยนะ เพราะสถานที่เหล่านี้เหมาะแก่การถ่ายภาพคู่รักเพื่อเอาไว้อวดคนอื่นๆให้อิจฉากันไปเลย

สวนผึ้ง ราชบุรี  สำหรับสถานที่นี่เหมาะแก่คู่รักที่ชอบผจญภัยและชอบสัตว์เพราะมันเป็นการไปเที่ยวฟาร์มเป็นการพาคู่รักเดินทางเพื่อเป้นการชมความสวยงามของสัตว์ขนาดต่างๆ เหมาะแก่ครอบครัวด้วยนะยิ่งมีลูกเล็กๆที่กำลังสนใจอยู่ละก็ที่นี่เหมาะแก่พวกเขามาก เพราะมันเป็นการเดินเล่นและชมวิวทิวทัศน์เพื่อเป้นการสานความสัมพันธ์ของครอบครัว นอกจากนั้นยังมีตลาดน้ำ หรือการให้อาหารแก่สัตว์ต่างๆด้วยนะ

ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต จันทบุรี  สำหรับสถานที่นี่เหมาะแก่คู่รักที่มีความชื่นชอบในวิวและทะเล เพราะเป็นสถานที่ที่เห็นทะเลสวยงามน้ำเป็นสีครามสวยมาก เหมาะแก่การสวีตแบบสวยๆเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพวิวหรือการใส่ชุดว่ายน้ำโชว์หุ่นและเรือน่างของตน ซึ่งต้องบอกว่าหากจะไปเที่ยวที่นี่จะต้องเป็นแฟนที่กำลังจีบใหม่ๆหรือกำลังคบหาดูใจแบบที่จะต้องการการเอาใจใส่กัน เพราะไปทะเลทั้งทีจะปล่อยให้เหงาได้ไงเนอะ สำหรับใครที่ได้สถานที่ท่องเที่ยวแล้วอย่าลืมที่จะถ่ายรูปคู่มาอวดกันบ้างนะคะ

รวมพลน้ำตกของจังหวัดนครนายก – จังหวัดสระบุรี

วันนี้เราจะมาแนะนำน้ำตกที่น่าเที่ยวไปในฤดูร้อนเราจะมาดูกันว่าน้ำตกอะไรที่มีความงามและน่าไปเที่ยวกันบ้าง

 น้ำตกซับเหวที่จังหวัดสระบุรีน้ำตกซับเหวตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรีเป็นน้ำตกที่น้ำจะไหลลงมาจากหน้าผาซึ่งหน้าผานี้มีความสูงเราราวประมาณ 30 เมตรซึ่งรอบรอบของน้ำตกก็จะเป็นป่ามีต้นไม้เขียวคะจีซึ่งจะมีแอ่งน้ำที่มีขนาดใหญ่มากๆอยู่ด้านล่างของน้ำตกนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถลงเล่นน้ำได้และสิ่งที่ทำให้น้ำตกที่ดังคือตรงกลางใส่น้ำตกที่ไหลลงมานั้นจะมี ทำทำหนึ่งอยู่ด้านไหนซึ่งจะเป็นตรงลึกลงไปกลางหน้าผาและทางด้านขวาของน้ำตกก็ยังมีโพรงถ้ำซึ่งมีหินย้อยหิวย่ามในและเมื่อเข้าไปก็ต้องขอบอกเลยว่ามีความงามมากๆดูลึกลับแต่ก็น่าค้นหา

 

น้ำตกคลองมะเดื่อจังหวัดนครนายกสำหรับน้ำตกคลองมะเดื่อเป็นน้ำตกที่เกิดขึ้นจากคลองมะเดื่อซึ่งเป็นลำธารสายเล็กๆที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในตอนแรกลำธารนี้รอบรอบจะมีธรรมชาติที่งดงามเงียบ สงบแต่ในปัจจุบันหลังจากที่มีคนรู้จักก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังมากทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะมากความสงบที่เคยเงียบก็ได้หายไปแต่กายเป็นน้ำตกที่มีความลั้นลาและน้ำตกนี้ขึ้นชื่อเป็นน้ำตกที่คนมาเที่ยวมากของจังหวัดนครนายกซึ่งน้ำตกนี้อยู่ห่างจากน้ำตกวังตะไคร้ประมาณ 1.5 กิโลเมตรแค่นั้น

 

น้ำตกสาริกาที่จังหวัดนครนายกสำหรับน้ำตกสายนาฬิกาเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่มากซึ่งน้ำตกนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่น้ำตกนี้จะมีน้ำไหนตลอดปีไม่มีวันหยุดใส่น้ำจะไหลตกจากหน้าผาซึ่งรมรวมแล้วก็มีประมาณเก้าฉันหาที่สูงที่สุดความสูงก็จะประมาณ 200 เมตรแต่ละชั้นจะมีอ่างรับน้ำที่กว้างมากแล้วจะมีน้ำเยอะมากก็คือในช่วงฤดูฝนไปจนถึงปลายฝนและตอนเข้าฤดูหนาวแรกแรก ซึ่งเหมาะแก่การที่จะให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมคุณสามารถเล่นน้ำถ่ายภาพคู่กับน้ำตกซึ่งก็ทำให้ได้รู้สึกถึงบรรยากาศแต่ก็ต้องระวังกันหน่อยเพราะน้ำที่นี่ในช่วงฤดูฝนก็ไหลแรงมาก

 

น้ำตกเหวสุวัตที่เขาใหญ่สำหรับน้ำตกเหวสุวัตเดาได้เลยว่าหลายคนอาจจะไม่รู้จักน้ำตกเหวสุวัตตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งตั้งอยู่สุดถนน ธนะรัชต์ซึ่งน้ำตกนี้มีลักษณะเป็นสายน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงซึ่งนับดูแล้วก็สูงราวประมาณ 20 เมตรเศษเศษบริเวณด้านล่างของน้ำตกจะเป็นแอ่งน้ำและจะเป็นลำธารคุณสามารถลงไปแช่ตัวในน้ำที่เย็นๆเหมาะกับการไปเที่ยวในฤดูร้อนเป็นอย่างมากหรือถ้าอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศคุณก็สามารถขึ้นไปชมวิวบนหน้าผาและมองลงมาจากมุมสูงก็มีความงดงามมากเหมือนกันซึ่งที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเพราะว่าน้ำตกนี้ตั้งอยู่ลึกมากๆทำให้ ไม่ค่อยมี ใครรู้จัก

อาหารที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวที่ฮ่องกง

ประเทศฮ่องกง ประเทศที่เรารู้จักและขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องของการไปไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้สมปรารถนา แต่ประเทศฮ่องกงนั้นยังมีอีกหนึ่งอย่างที่มีชื่อเสียงอย่างมากๆนั้นก็คือเรื่องของอาหาร จนใครๆต่างก็บอกกันว่าเป็นประเทศที่มีอาหารอร่อยล้ำเลิศ จนถึงกับที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนจัดทริปมาเที่ยวที่ประเทศฮ่องกงเพื่อมาตระเวนไปในเมืองและกินอาหารอร่อยๆมากมายโดยเฉพาะ ซึ่งอาหารที่ฮ่องกงก็ต้องมีสูตรเฉพาะของฮ่องกง

โดยเรามาดูกันค่ะว่ามาเที่ยวที่ฮ่องกงทั้งทีมีอาหารอะไรที่เราไม่ควรพลาดบ้างค่ะ

  1. ติ่มซำ เมนูสุดขึ้นชื่อลือชาอันดับหนึ่งที่ใครมาฮ่องกงเป็นต้องกินทุกราย ติ่มซำคือของนึ่งต่างๆที่เสิร์ฟมาประมาณ 3 – 4 ลูกในเข่งไม้ไผ่เล็กๆ โดยของนึ่งที่เป็นที่นิยมก็จะมี ฮะเก๋า ขนมจีบ ซาลาเปา หมั่นโถว เสี่ยวหลงเปา ก๋วยเตี๋ยวหลอด ซี่โครงหมู ฝั่นโก๋ กุ๊ยช่าย และยังมีพวกของทอดทั้ง เปาะเปี๊ยะทอด ซาลาเปาทอด ฟองเต้าหู้ทอด ฯลฯ ส่วนใหญ่ติ่มซำมักกินคู่กับน้ำชาร้อนๆค่ะ
  2. ลูกชิ้นปลา ที่ประเทศฮ่องกงนั้นถือว่าเป็นของว่างไว้ทานเล่น ซึ่งหาได้ง่ายมากๆตามสตรีทฟู๊ดส์ โดยมีมาตั้งแต่ช่วงยุคปี ค.ศ. 1950 ส่วนใหญ่แล้วจะนำไปทอดและทานกับน้ำซอสเผ็ดหรือหวานค่ะ  บางครั้งก็จะเจอลูกชิ้นปลาในรูปแบบของส่วนประกอบสำคัญในเมนูหม้อไฟ หรือ บะหมี่ร้อนๆ ซึ่งบอกได้เลยว่าราคาของลูกชิ้นปลานั้นมีตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง ยิ่งวัตถุดิบดีราคาก็สูงขึ้นตามค่ะ
  3. ชานมฮ่องกง ใครๆก็บอกว่าจะกินชานมไข่มุกต้องไปกินที่ไต้หวัน แต่รู้กันไหมคะว่าจริงๆแล้วที่ฮ่องกงนั้นเจ้าชานมนี่ก็ฮิตไม่แพ้กันเลย ชานมสไตล์ฮ่องกงนั้นจะใช้ใบชาดำซีลอน ผสมกับนมข้นหวานและน้ำตาล โดยตัวน้ำชาจะอยู่ด้านล่างและส่วนของนมจะอยู่ด้านบน ในปัจจุบันนี้คุณสามารถหาทานชานมได้อยู่ทั่วทุกหนแห่งในฮ่องกง เพราะชานมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมและชีวิตประจำวันของชาวฮ่องกงไปแล้วค่ะ
  4. ทาร์ตไข่ ขนมอบสุดป๊อบปูล่าร์ในประเทศฮ่องกง เป็นที่นิยมอย่างมากแม้ในคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว โดยทาร์ตไข่ในสไตล์ฮ่องกงจะทำจากเนย แป้ง และไข่ที่ถูกนำไปปรุงรสหวาน โดยเริ่มแรกนั้นมีที่มาจากการล่าอาณานิคมของโปรตุเกสในมาเก๊า จนมาถึงช่วงยุคปี ค.ศ.1940 ที่มีแพร่หลายตามร้านน้ำชาของฮ่องกงค่ะ แต่ตอนนี้คุณสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านเบเกอรี่ คาเฟ่ แล้วเหมือนกันนะค่ะ

ก็อยากให้ทุกคนไปลองชิมกันดูนะค่ะ

พาเที่ยววัดร่องแซงจังหวัดสระบุรี

ฉันเกิดที่จังหวัดสระบุรีและโตที่จังหวัดสระบุรี

บ้านของฉันอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนวัดร่องแซงกุลไพศาลพิทยา โดยอยู่ฝั่งเดียวกับวัดร่องแซงตั้งแต่เล็กจนโตฉันก็เห็นว่า วัดร่องแซงตั้งอยู่ตรงจุดนี้อยู่แล้วซึ่งแต่เดิมเคยมีประวัติเราว่าว่าต้องแสงเคยอยู่อีกที่หนึ่งแต่ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างมีจำกัดและพระไม่สามารถออกมาบิณฑบาตได้จึงมีการย้ายวัดร่องแซงจากจุดเดิมมาไว้ตรงนี้

ซึ่งตรงแสงที่อยู่ในปัจจุบันจะอยู่ติดกับถนนใหญ่ในสมัยที่ฉันยังเป็นเด็กวัดยังมีขนาดเล็กยังไม่มีพื้นที่มากนักจะมีแค่โบสถ์ศาลาเพื่อให้พระได้ปฏิบัติธรรมเท่านั้นแต่มาในปัจจุบันเมื่อฉันได้ย้อนกลับไปฉันพบว่าที่วัดมีสิ่งก่อสร้างใหม่ใหม่ขึ้นมากมายและสิ่งที่ฉันเห็น คือการสร้างกุฏิการสร้างโบสถ์ เพิ่มขึ้นพื้นที่ของบริเวณวัดมีบริเวณเยอะมากขึ้น

ผู้คนนิยมมาทำบุญกันเยอะขึ้น

ซึ่งเจ้าอาวาสของวัดคนปัจจุบันมักจะมีการจัดงานตามเทศกาลต่างๆรวมถึงการจัดให้มีการฟังธรรมทำให้ประชาชนต่างก็สนใจที่จะทำบุญกันมากขึ้นในทุกๆปีเจ้าอาวาสจะมีการจัดทัวร์ให้ประชาชนเดินทางไปทำบุญตามวัดอื่นๆในจังหวัดอื่นๆซึ่งท่านจะเป็นคนพาไป ซึ่งถือว่าเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนหันมาสนใจการทำบุญกันมากขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วฉันได้พาลูกสาวไปทำบุญที่วัดแห่งนี้เพื่อทำบุญระลึกถึงพ่อของฉันเมื่อเราทำบุญเสร็จแล้วฉันได้เดินดูรอบๆบริเวณวัดพบว่านอกจากจะมีสิ่งก่อสร้างมากมาย

แล้วยังมีสถานที่ออกกำลังกายให้กับคนในชุมชนอีกด้วยและที่สำคัญมีสระน้ำที่เลี้ยงปลาไว้มากมายเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ตรงบ่อเลี้ยงปลานี่เองเราจะสามารถให้อาหารปลาได้โดยทางวัดจะมีอาหารปลาค่อยจำหน่ายให้กับผู้คนโดยคิดค่าหารปลาขวดละ 10 บาทซึ่งฉันคิดว่านี่คือสิ่งที่ดี

เพราะเราสามารถที่จะนำเงินบริจาคไปบำรุงรักษาวัด ส่วนปลาก็ได้ทานอาหาร  แม่เล่าให้ฉันฟังว่าในช่วงทุกเทศกาลวัดจะมีการจัดงานการละเล่นต่างๆซึ่งแต่เดิมเจ้าอาวาสคนก่อนมักจะไม่ค่อยให้มีการจัดงานอะไรทำให้คนไม่ค่อยอยากจะมาที่วัดกัน แต่เมื่อมีเจ้าอาวาสท่านนี้ย้ายเข้ามาวัดก็ดูมีสีสันมากขึ้นผู้คนพากันไปทำบุญมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่และคนชราในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็มีการนัดรวมตัวกันสวดมนต์ขอพรข้ามปีซึ่งสำหรับจะว่าคนเดิมไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน

ทริปกิจกรรมไหว้ในวันหยุด

กิจกรรมไหว้พระ 9 วัดพร้อมความหมายดีๆที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

             สำหรับการไปขอพรไหว้พระ เราควรจะรู้ความหมายของวัดแต่ละที่ว่า ชื่อวัดในแต่ละวัดมีความหมายเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้เน้นขอพรพระให้ตรงกับชื่อขอวัด ซึ่งโดยปกติแล้วการไหว้พระที่คนส่วนใหญ่จะเน้นความเป็นสิริมงคล ก็จะเน้นไหว้พระให้ครบ 9 วัดในหนึ่งวันซึ่งอันที่จริงการไหว้พระไม่จำเป็นต้องกะเกณฑ์แบบนั้นก็ได้

หากเรามีเวลาไม่มากจะทำบุญวันละ วัดหรือสองวัดก็ได้แต่หากใครที่มีเวลาว่างมากพอหากทำบุญครบ 9 วัดก็จะถือว่าเป็นมงคลให้กับชีวิตเป็นอย่างมาก

เรามาดูวัดที่คนส่วนใหญ่ต่างพากันมากราบไหว้พร้อมความหมายดีๆของวัดแต่ละวัดกันค่ะ

  1. ศาลหลักเมือง ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งคนที่มากราบไหว้ที่นี่มักจะเน้นการขอเรื่องการตัดเคราะห์ปัดเป่าทุกข์โศก และการขอพรให้ชีวิตมีแต่ความสุขความเจริญ ศาลหลักเมืองจะอยู่ตรงบริเวณด้านข้างของพระบรมมหาราชวัง อยู่ตรงหัวมุม เปิดให้เข้าเวลา 05.30 -19.30 น.
  2. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เราเรียกกันว่าวัดพระแก้วมรกต วัดแห่งนี้คนที่มากราบไหว้มักจะมาขอให้ร่ำรวยมีแก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมา จะเปิดให้เข้ากราบไหว้เวลา 08.30-16.00 น.
  3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่เรียกติดปากว่าวัดโพธิ์ ผู้คนที่มาวัดนี้ส่วนใหญ่จะขอเรื่องความร่มเย็นเป็นสุข เปิดให้กราบไหว้เวลา 08.00-16.00 น.
  4. ศาลเจ้าพ่อเสือ สำหรับที่นี่ผู้คนที่มากราบไว้จะเน้นขอเรื่องการมีบารมี มีอำนาจ เป็นการเสริมบารมีให้กับตัวเอง เปิดให้กราบไหว้เวลา 08.00-16.00 น.
  5. วัดสุทัศนเทพวราราม สำหรับวัดนี้จะเน้นขอพรเรื่องการมีเสน่ห์ ให้คนรักใคร่ และขอพรความสิริมงคลให้มีวิสัยทัศน์ที่ดี เปิดให้เข้าไปไหว้เวลา 08.00-16.00 น.
  6. วัดชนะสงคราม  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องขอเรื่องการชนะอุปสรรคทุกอย่างมีชัยกับทุกสิ่ง เปิดให้เข้าไปขอพรไหว้พระเวลา 8.00-16.00 น.
  7. วัดระฆังโฆษิตาราม  ที่วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องการให้พรเกี่ยวกับการมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่นิยมชมชอบของคนอื่น ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนเข้าไปกราบไหว้ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
  8. วัดอรุณราชวราราม  วัดแห่งนี้จะให้พรเรื่องการมีชีวิตที่รุ่งโรจน์ ร่ำรวย มีชีวิตที่สว่างไสวทำอะไรก็สำเร็จ ซึ่งประชาชนสามารถเข้ากราบไหว้ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
  9. และวัดสุดท้ายที่จะแนะนำคือวัดกัลยาณมิตร  ซึ่งจะเน้นให้พรเรื่องการเดินทางไปไหนก็จะแคล้วคลาดปลอดภัย โชคดีมีชัยตลอดทั้งปี เปิดให้กราบไหว้ตั้งแต่ 08.00-16.00 น.