รวมพลน้ำตกของจังหวัดนครนายก – จังหวัดสระบุรี

วันนี้เราจะมาแนะนำน้ำตกที่น่าเที่ยวไปในฤดูร้อนเราจะมาดูกันว่าน้ำตกอะไรที่มีความงามและน่าไปเที่ยวกันบ้าง

 น้ำตกซับเหวที่จังหวัดสระบุรีน้ำตกซับเหวตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรีเป็นน้ำตกที่น้ำจะไหลลงมาจากหน้าผาซึ่งหน้าผานี้มีความสูงเราราวประมาณ 30 เมตรซึ่งรอบรอบของน้ำตกก็จะเป็นป่ามีต้นไม้เขียวคะจีซึ่งจะมีแอ่งน้ำที่มีขนาดใหญ่มากๆอยู่ด้านล่างของน้ำตกนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถลงเล่นน้ำได้และสิ่งที่ทำให้น้ำตกที่ดังคือตรงกลางใส่น้ำตกที่ไหลลงมานั้นจะมี ทำทำหนึ่งอยู่ด้านไหนซึ่งจะเป็นตรงลึกลงไปกลางหน้าผาและทางด้านขวาของน้ำตกก็ยังมีโพรงถ้ำซึ่งมีหินย้อยหิวย่ามในและเมื่อเข้าไปก็ต้องขอบอกเลยว่ามีความงามมากๆดูลึกลับแต่ก็น่าค้นหา

 

น้ำตกคลองมะเดื่อจังหวัดนครนายกสำหรับน้ำตกคลองมะเดื่อเป็นน้ำตกที่เกิดขึ้นจากคลองมะเดื่อซึ่งเป็นลำธารสายเล็กๆที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในตอนแรกลำธารนี้รอบรอบจะมีธรรมชาติที่งดงามเงียบ สงบแต่ในปัจจุบันหลังจากที่มีคนรู้จักก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังมากทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะมากความสงบที่เคยเงียบก็ได้หายไปแต่กายเป็นน้ำตกที่มีความลั้นลาและน้ำตกนี้ขึ้นชื่อเป็นน้ำตกที่คนมาเที่ยวมากของจังหวัดนครนายกซึ่งน้ำตกนี้อยู่ห่างจากน้ำตกวังตะไคร้ประมาณ 1.5 กิโลเมตรแค่นั้น

 

น้ำตกสาริกาที่จังหวัดนครนายกสำหรับน้ำตกสายนาฬิกาเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่มากซึ่งน้ำตกนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่น้ำตกนี้จะมีน้ำไหนตลอดปีไม่มีวันหยุดใส่น้ำจะไหลตกจากหน้าผาซึ่งรมรวมแล้วก็มีประมาณเก้าฉันหาที่สูงที่สุดความสูงก็จะประมาณ 200 เมตรแต่ละชั้นจะมีอ่างรับน้ำที่กว้างมากแล้วจะมีน้ำเยอะมากก็คือในช่วงฤดูฝนไปจนถึงปลายฝนและตอนเข้าฤดูหนาวแรกแรก ซึ่งเหมาะแก่การที่จะให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมคุณสามารถเล่นน้ำถ่ายภาพคู่กับน้ำตกซึ่งก็ทำให้ได้รู้สึกถึงบรรยากาศแต่ก็ต้องระวังกันหน่อยเพราะน้ำที่นี่ในช่วงฤดูฝนก็ไหลแรงมาก

 

น้ำตกเหวสุวัตที่เขาใหญ่สำหรับน้ำตกเหวสุวัตเดาได้เลยว่าหลายคนอาจจะไม่รู้จักน้ำตกเหวสุวัตตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งตั้งอยู่สุดถนน ธนะรัชต์ซึ่งน้ำตกนี้มีลักษณะเป็นสายน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงซึ่งนับดูแล้วก็สูงราวประมาณ 20 เมตรเศษเศษบริเวณด้านล่างของน้ำตกจะเป็นแอ่งน้ำและจะเป็นลำธารคุณสามารถลงไปแช่ตัวในน้ำที่เย็นๆเหมาะกับการไปเที่ยวในฤดูร้อนเป็นอย่างมากหรือถ้าอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศคุณก็สามารถขึ้นไปชมวิวบนหน้าผาและมองลงมาจากมุมสูงก็มีความงดงามมากเหมือนกันซึ่งที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเพราะว่าน้ำตกนี้ตั้งอยู่ลึกมากๆทำให้ ไม่ค่อยมี ใครรู้จัก

อาหารที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวที่ฮ่องกง

ประเทศฮ่องกง ประเทศที่เรารู้จักและขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องของการไปไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้สมปรารถนา แต่ประเทศฮ่องกงนั้นยังมีอีกหนึ่งอย่างที่มีชื่อเสียงอย่างมากๆนั้นก็คือเรื่องของอาหาร จนใครๆต่างก็บอกกันว่าเป็นประเทศที่มีอาหารอร่อยล้ำเลิศ จนถึงกับที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนจัดทริปมาเที่ยวที่ประเทศฮ่องกงเพื่อมาตระเวนไปในเมืองและกินอาหารอร่อยๆมากมายโดยเฉพาะ ซึ่งอาหารที่ฮ่องกงก็ต้องมีสูตรเฉพาะของฮ่องกง

โดยเรามาดูกันค่ะว่ามาเที่ยวที่ฮ่องกงทั้งทีมีอาหารอะไรที่เราไม่ควรพลาดบ้างค่ะ

  1. ติ่มซำ เมนูสุดขึ้นชื่อลือชาอันดับหนึ่งที่ใครมาฮ่องกงเป็นต้องกินทุกราย ติ่มซำคือของนึ่งต่างๆที่เสิร์ฟมาประมาณ 3 – 4 ลูกในเข่งไม้ไผ่เล็กๆ โดยของนึ่งที่เป็นที่นิยมก็จะมี ฮะเก๋า ขนมจีบ ซาลาเปา หมั่นโถว เสี่ยวหลงเปา ก๋วยเตี๋ยวหลอด ซี่โครงหมู ฝั่นโก๋ กุ๊ยช่าย และยังมีพวกของทอดทั้ง เปาะเปี๊ยะทอด ซาลาเปาทอด ฟองเต้าหู้ทอด ฯลฯ ส่วนใหญ่ติ่มซำมักกินคู่กับน้ำชาร้อนๆค่ะ
  2. ลูกชิ้นปลา ที่ประเทศฮ่องกงนั้นถือว่าเป็นของว่างไว้ทานเล่น ซึ่งหาได้ง่ายมากๆตามสตรีทฟู๊ดส์ โดยมีมาตั้งแต่ช่วงยุคปี ค.ศ. 1950 ส่วนใหญ่แล้วจะนำไปทอดและทานกับน้ำซอสเผ็ดหรือหวานค่ะ  บางครั้งก็จะเจอลูกชิ้นปลาในรูปแบบของส่วนประกอบสำคัญในเมนูหม้อไฟ หรือ บะหมี่ร้อนๆ ซึ่งบอกได้เลยว่าราคาของลูกชิ้นปลานั้นมีตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง ยิ่งวัตถุดิบดีราคาก็สูงขึ้นตามค่ะ
  3. ชานมฮ่องกง ใครๆก็บอกว่าจะกินชานมไข่มุกต้องไปกินที่ไต้หวัน แต่รู้กันไหมคะว่าจริงๆแล้วที่ฮ่องกงนั้นเจ้าชานมนี่ก็ฮิตไม่แพ้กันเลย ชานมสไตล์ฮ่องกงนั้นจะใช้ใบชาดำซีลอน ผสมกับนมข้นหวานและน้ำตาล โดยตัวน้ำชาจะอยู่ด้านล่างและส่วนของนมจะอยู่ด้านบน ในปัจจุบันนี้คุณสามารถหาทานชานมได้อยู่ทั่วทุกหนแห่งในฮ่องกง เพราะชานมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมและชีวิตประจำวันของชาวฮ่องกงไปแล้วค่ะ
  4. ทาร์ตไข่ ขนมอบสุดป๊อบปูล่าร์ในประเทศฮ่องกง เป็นที่นิยมอย่างมากแม้ในคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว โดยทาร์ตไข่ในสไตล์ฮ่องกงจะทำจากเนย แป้ง และไข่ที่ถูกนำไปปรุงรสหวาน โดยเริ่มแรกนั้นมีที่มาจากการล่าอาณานิคมของโปรตุเกสในมาเก๊า จนมาถึงช่วงยุคปี ค.ศ.1940 ที่มีแพร่หลายตามร้านน้ำชาของฮ่องกงค่ะ แต่ตอนนี้คุณสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านเบเกอรี่ คาเฟ่ แล้วเหมือนกันนะค่ะ

ก็อยากให้ทุกคนไปลองชิมกันดูนะค่ะ

เมืองที่ไม่น่ามีคนอยู่ และ ยังมีความสวยงามน่าเหลือเชื่อ

ใครเป็นโรคกลัวความสูงกันบ้างการขึ้นไปยืนบนที่สูงๆหรือการได้เดินไปที่สูงๆนั้นสำหรับคนที่กลัวความสูงแล้วคุณองจะต้องขาสั่นกันเลยใช่ไหมแต่สำหรับพวกเขาเหล่านี้จะเป็นอะไรที่พวกเขาต้องมองข้ามมันไปอีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ธรรมดามากๆและนี้เราอยากให้มาดูเมืองสำคัญต่างๆที่มันต่างไปจากทั่วมุมโลกที่ต้องบอกเลยว่ามีทำเลทั้งสูงเอามากๆเลยและที่สำคัญเลยพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความงดงามอย่างหน้าเหลือเชื่อ

หมู่บ้านริมทะเล Cinpue Terre ltaly อิตาลี่   

 Cinpue Terre ltalyนั้นเป็นเมืองเก่าแก่ที่ได้ก่อตั้งมายาวนาน1300ปีซึ่งได้ตั้งอยู่แขวงริโกเรียซึ่งเป็นแขวงที่เล็กที่สุดของ ประเทศอิตาลี่ซึ่งได้ประกอบไปด้วยบ้านน่ารักๆ5หมู่บ้านที่สร้างอยู่บนหน้าผาและชายเขาเป็นสถานที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น หมู่บ้านของชาวประมงที่สวยที่สุดเลยจริงๆสำหรับการมาท่องเที่ยวที่นี้นั้นคุณจะได้ซึมซับกับบรรยากาศของพื้นเมือง น่ารักๆพร้อมกับความสวยงามของเมืองนี้ในยามเช้าของที่นี้จะมี่หมอกปกคุมไปทั่วหมู่บ้านแล้วก็ทะเลสาปและซึ่งพระอาทิตได้ขึ้นเป็นแสงสีทองก็จะเห็นได้ว่าเป็นภาพที่หน้าประทับใจเอามากๆเลยนะ

Bonifacio,France ของประเทศฝรั่งเศษ  

เป็นเมืองบนหน้าผาที่มีชื่อเสียงไม่น้อยไปกว่าเมืองอื่นๆ  เมืองแห่งนี้นั้นเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้คอสตาริกาซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ในอันดับที่4ในทะเลมะริดเด้อริเนี่ยซึ่งอยู่ในแขวงของฝรั่งเศษโดยเมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะคอสตาริกาด้วยชื่อเสียงนั้นที่มีชายฝั่งที่มีท่าเรือซึ่งถือได้ว่าเป็นการขนส่งหลักในส่วนของพื้นที่แถบนี้จึงส่งผลให้เกาะแห่งนี้เป็นจุดหมายกรท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งนั้นเองต้องบอกเลยว่ามันเป็นเมืองที่งดงามเอามากๆเลยทีเดียว

Tropoa, Italy   

เมืองแห่งนี้ติดกับทะเลไทเรเนียนซึ่งชาวอิตาลีรู้จักกันดีในนามชายหาดของพระเจ้าและที่มาของชื่อนั้นมันมาตั้งแต่สมัยความเชื่อโบราณของชาวบ้านที่ได้เล่ากันมาว่าเมืองนี้ได้ถูกก่อตั้งขึ้นโดยเทพที่เต็มไปด้วยกำลังอย่างเฮอร์คิวลีสซึ่งเมืองได้ตั้งอยู่บนหินผาที่สูงติดริมทะเลและยังมีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ7,000คนเท่านั้นอีกทั้งยังเป็นเมืองที่เงียบสงบและไม่มีผู้คนมากมายเท่าไรบอกได้เลยว่าคนที่กำลังคิดที่จะวางแผนที่จะไปท่องเที่ยวที่เมืองนี้แล้วบอกได้เลยจะได้เที่ยวอย่างสบายใจสุดๆเพราะที่นั้นมีทั้งความสวยงามและสถานที่เที่ยวและอาหารอร่อยๆเอาไว้รองรับคนที่มาท่องเที่ยว

พาเที่ยววัดร่องแซงจังหวัดสระบุรี

ฉันเกิดที่จังหวัดสระบุรีและโตที่จังหวัดสระบุรี

บ้านของฉันอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนวัดร่องแซงกุลไพศาลพิทยา โดยอยู่ฝั่งเดียวกับวัดร่องแซงตั้งแต่เล็กจนโตฉันก็เห็นว่า วัดร่องแซงตั้งอยู่ตรงจุดนี้อยู่แล้วซึ่งแต่เดิมเคยมีประวัติเราว่าว่าต้องแสงเคยอยู่อีกที่หนึ่งแต่ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างมีจำกัดและพระไม่สามารถออกมาบิณฑบาตได้จึงมีการย้ายวัดร่องแซงจากจุดเดิมมาไว้ตรงนี้

ซึ่งตรงแสงที่อยู่ในปัจจุบันจะอยู่ติดกับถนนใหญ่ในสมัยที่ฉันยังเป็นเด็กวัดยังมีขนาดเล็กยังไม่มีพื้นที่มากนักจะมีแค่โบสถ์ศาลาเพื่อให้พระได้ปฏิบัติธรรมเท่านั้นแต่มาในปัจจุบันเมื่อฉันได้ย้อนกลับไปฉันพบว่าที่วัดมีสิ่งก่อสร้างใหม่ใหม่ขึ้นมากมายและสิ่งที่ฉันเห็น คือการสร้างกุฏิการสร้างโบสถ์ เพิ่มขึ้นพื้นที่ของบริเวณวัดมีบริเวณเยอะมากขึ้น

ผู้คนนิยมมาทำบุญกันเยอะขึ้น

ซึ่งเจ้าอาวาสของวัดคนปัจจุบันมักจะมีการจัดงานตามเทศกาลต่างๆรวมถึงการจัดให้มีการฟังธรรมทำให้ประชาชนต่างก็สนใจที่จะทำบุญกันมากขึ้นในทุกๆปีเจ้าอาวาสจะมีการจัดทัวร์ให้ประชาชนเดินทางไปทำบุญตามวัดอื่นๆในจังหวัดอื่นๆซึ่งท่านจะเป็นคนพาไป ซึ่งถือว่าเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนหันมาสนใจการทำบุญกันมากขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วฉันได้พาลูกสาวไปทำบุญที่วัดแห่งนี้เพื่อทำบุญระลึกถึงพ่อของฉันเมื่อเราทำบุญเสร็จแล้วฉันได้เดินดูรอบๆบริเวณวัดพบว่านอกจากจะมีสิ่งก่อสร้างมากมาย

แล้วยังมีสถานที่ออกกำลังกายให้กับคนในชุมชนอีกด้วยและที่สำคัญมีสระน้ำที่เลี้ยงปลาไว้มากมายเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ตรงบ่อเลี้ยงปลานี่เองเราจะสามารถให้อาหารปลาได้โดยทางวัดจะมีอาหารปลาค่อยจำหน่ายให้กับผู้คนโดยคิดค่าหารปลาขวดละ 10 บาทซึ่งฉันคิดว่านี่คือสิ่งที่ดี

เพราะเราสามารถที่จะนำเงินบริจาคไปบำรุงรักษาวัด ส่วนปลาก็ได้ทานอาหาร  แม่เล่าให้ฉันฟังว่าในช่วงทุกเทศกาลวัดจะมีการจัดงานการละเล่นต่างๆซึ่งแต่เดิมเจ้าอาวาสคนก่อนมักจะไม่ค่อยให้มีการจัดงานอะไรทำให้คนไม่ค่อยอยากจะมาที่วัดกัน แต่เมื่อมีเจ้าอาวาสท่านนี้ย้ายเข้ามาวัดก็ดูมีสีสันมากขึ้นผู้คนพากันไปทำบุญมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่และคนชราในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็มีการนัดรวมตัวกันสวดมนต์ขอพรข้ามปีซึ่งสำหรับจะว่าคนเดิมไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน

คู่มือท่องเที่ยว มือใหม่หัดบิน

การเลือกที่พัก

      การเลือกที่พักถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะสามารถจัดแจ้งรายละเอียดเรื่องต่างๆตามความเหมาะสมของแต่ล่ะคน เช่น ถ้างบไม่จำกัดก็สามารถเนรมิตทุกอย่างได้อย่างตามใจฉัน อยากทำไรก็ได้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน 

แต่สำหรับคนงบน้อยการจะหาได้ที่พักราคาถูกในทำเลดีๆจะทำให้เรามีเงินเหลือสำหรับการเที่ยวมากขึ้นประหยัดเวลาในการเดินทางและสะดวกสบายยิ่งขึ้นทั้งนี้ที่พักไม่ใช่เพียงที่ซุกหัวนอนพักผ่อนเท่านั้น ซึ่งในบางครั้งที่พักประเภทต่างๆสามารถสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้เราได้ เพราะที่ญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่โรงแรมแบบธรรมดาทั่วไปแต่มีทั้งเรียวกังสุดคลาสสิคและโรงแรมแคปซูลที่พักแห่งอนาคตเป็นประสบการณ์ที่จะหาจากประเทศอื่นๆไม่ได้ และในการเลือกที่พักนั้น ควรเลือกที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟไว้จะดีที่สุด ก็เพราะจะทำให้เราง่ายต่อการเดินทางที่จะไปเที่ยวไปไหนมาไหนก็สะดวก หรืออยากจะไปเที่ยวเมืองอื่นๆอีกได้เช่นกัน 

ประเภทของที่พัก

นอนโรงแรม 

-Hotel โรงแรมแบบสากลทั่วไปมีหลากหลายทำเลที่ตั้งภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบมีให้เลือกหลายระดับต่างราคาตั้งแต่สองดาวขึ้นไปจนถึงห้าดาวขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าของเราส่วนใหญ่ราคาที่พักโดยประมาณคืนละ 10,000 ถึง 30,000 เยน

-Business hotel เป็นโรงแรมแบบสากลที่มีขนาดห้องค่อนข้างเล็กมีสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควรมีห้องน้ำส่วนตัวโรงแรมประเภทนี้ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ คนที่มาพักส่วนใหญ่มักเป็นนักธุรกิจสำหรับเครือโรงแรม Business hotelที่มีชื่อเสียงคือเครือโรงแรม Toyoko Inn ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีจุดเด่นที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟและมีอาหารเช้าให้ฟรีราคาโดยประมาณคืนละ 6000 ถึง 10,000 เยน

-Hostel หรือ Guest house ที่พักราคาประหยัดสุดสุดสำหรับคนที่พร้อมเปิดรับเพื่อนใหม่ใหม่เพราะที่พักประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องพักแบบพักรวมกันสองถึงสี่คน มีพื้นที่ส่วนกลางให้ดูทีวี ทำกับข้าวรวมกันทำให้ได้คุยรู้จักกับเพื่อนชาวต่างชาติอีกมากมาย ราคาโดยประมาณคืนละ 2000 ถึง 6000 เยน

การเตรียมตัวเที่ยวปีนเขาและเดินป่า

การเตรียมตัวเที่ยวปีนเขาและเดินป่ามีดังนี้

มีใครชอบการการเที่ยวแบบลุยๆ ผจญภัยไหมเอ่ย เชื่อเถอะว่าจะต้องมีแน่นอน ซึ่งการเที่ยวแบบผจญภัยนั้นมีหลากหลายการเที่ยว แต่ในบทความนี้เราก็มีคำแนะนำสำหรับการเที่ยวแบบผจญภัยเหมือนกันซึ่งจะเป็นการผจญภัยแบบปีนเขาและเดินป่า ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ท้าทายใช่ย่อยเลย มันคงจะเป็นประโยชน์มากๆสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มในการเที่ยวรูปแบบนี้ ฉะนั้นแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าจะมีอะไรบ้างที่คุณจะต้องเตรียมเอาไปในทริปการเที่ยวปีนเขาและเดินไปในครั้งนี้

1.ศึกษาและเรียนรู้การแคมปิ้งเบื้องต้น หลายคนคงจะเคยอ่านคู่มือสำหรับการออกไปเที่ยวแล้วตั้งแคมป์ ซึ่งนั้นอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณเข้าใจได้อย่างถ้องแท้ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือการทดลองทำจริงเพื่อให้มีความชำนาญอย่างเช่น ฝึกการประกอบเต็นท์ การจุดไฟ การทำอาหาร เป็นต้น

2.เลือกสถานที่ หากคุณเป็นมือใหม่ อย่าพึ่งเลือกสถานที่ที่มีความเสี่ยงหรือความท้าทายมากจนเกินไป สิ่งที่คุณควรคำนึกถึงคือ เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติให้มากที่สุด

3.อ่านแผนที่ เข็มทิศ ให้เป็น แน่นอนว่าการเดินป่านั้นจะไม่มีป้ายสัญลักษณ์บอกทางเหมือนบนท้องถนน การเดินทางในป่านั้นจะต้องอาศัยแผนที่ และ เข็มทิศ ในการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นแล้วคุณควรเรียนรู้เรื่องนี้เอาไว้ให้ดี

4.น้ำดื่ม ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเลยในการเที่ยวแบบผจญภัยแบบนี้ ถ้าหากขาดน้ำดื่มไปคือสิ่งที่แย่ที่สุดเลย เพราะกิจกรรมที่เรานั้นต้องใช้พลังงานเป็นอย่างมาก ร่างกายจะเกิดการกระหายน้ำขึ้นมา นี่จึงเป็นส่วนสำคัญที่เราจะขาดน้ำสักขวดเอาไปด้วย

5.ถุงเท้า และ รองเท้า ที่ซัพพอร์ตในการทำกิจกรรม การปีนเขาและการเดินป่ามักจะมีอุปสรรคหลากหลายอย่าง ซึ่งร่างกายของเราที่ถูกใช้เยอะในกิจกรรมเหล่านี้ก็คงหนีไม่พ้นเท้า ที่ใช้ในการเดินและการปีน เพื่อทำให้เรามีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ควรที่จะเลือกใส่ถุงเท้าและรองเท้าที่มีส่วนช่วยในการซัพพอร์ตเมื่อเราทำกิจกรรมพวกนี้

6.เลือกใส่เสื้อผ้าที่คล่องตัว การเที่ยวแบบผจญเหล่านี้หรือไม่ว่าจะแบบไหน เสื้อผ้าคือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการเที่ยวผจญนั้นจะต้องทำให้ตัวเองรู้สึกไม่อึดอัด พร้อมที่จะลุยอยู่เสมอ ควรใส่เสื้อผ้าที่มาความคล่องตัว สบาย ระบายอากาศ

7.อาหารระหว่างการเดินทาง กิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานในร่างกายในการทำกิจกรรมนั้น จะขาดอาหารไม่ได้เลยไม่อย่างนั้นแล้วเราคงไม่มีแรงระหว่างทำกิจกรรมแน่ๆ

8.อุปกรณ์ปฐมพยาบาล เป็นที่ทราบกันดีในการปีนเขาเดินป่านั้นมีความเสี่ยงและความท้าทายเป็นอย่างนั้น หากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา สิ่งแรกที่ควรทำคือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากร้ายแรงมากจึงค่อยนำตัวส่งโรงพยาบาล

9.แสงสว่าง ในการเดินป่าช่วงเวลากลางคืนแสงหลักจาธรรมชาติอย่างพระจันทร์คงไม่เพียงพออย่างแน่นอน คุณต้องพกไฟฉายไปด้วย และ การก่อกองไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่นและยังช่วยในการไล่สัตว์ป่าได้อีกด้วย

10.เตรียมความพร้อมและร่างกายให้ดี คุณต้องมั่นใจในตัวเองในการทำกิจกรรมครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เตรียมทางด้านร่างกายเท่านั้น แต่กิจกรรมเหล่านี้นั้นมีความท้าทาย คุณจะต้องเตรียมตัวเรื่องของจิตใจอีกด้วย ถ้าหากคุณยังไม่พร้อมก็อย่าพึ่งออกไปกิจกรรมเด็ดขาด

ท่องเที่ยวที่เขาวงพระจันทร์

ไปพิสูจน์รักแท้ที่เขาวงพระจันทร์

ตอนนี้ตามเพจต่างๆที่สนับสนุนการท่องเที่ยวต่างพากันโพสต์เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ไปร่วมงานประจำปีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์ ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 25 มกราคม จนถึง 8 กุมภาพันธ์ 2563  ทำให้เราหวนคิดถึงอดีตที่ผ่านมาหลายปีแล้ว เพราะคู่เราก็เป็นอีกหนึ่งคู่ที่ไปพิสูจน์รักแท้กันที่นั่น

วัดเขาวงพระจันทร์ ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดลพบุรี ความพิเศษของวัดนี้ก็ของการเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขาที่มีบันไดทั้งหมด 3,790 ขั้น เพื่อกราบไหว้รอยพระพุทธบาทและสักการะเจ้าแม่เกตุมณีศรีประจันต์ที่อยู่ในถ้ำ

ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน

ตอนนั้นสามีเพิ่งจะเข้ามาคุยจีบกันใหม่ๆยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกันนะ บังเอิญได้ยินเพื่อนๆที่ทำงานเค้าคุยกันเรื่องไปเที่ยวไหว้พระที่วัดเขาวงพระจันทร์ว่า ถ้าอยากรู้ว่าคนที่มาจีบเนี่ยจะเป็นคู่แท้ของเรารึเปล่าให้พาไปพิสูจน์รักแท้กันที่นั้น เราก็เลยเกิดไอเดียพาผู้ชายคนเนี่ยไป จำได้ว่าขับรถออกจากบ้านกันตีห้าไปถึงก็หกโมงครึ่ง จอดรถได้ก็ไปถามป้าที่ร้านค้าในวัดว่าเค้าต้องไปไหว้กันตรงไหน ป้าใจดีแนะนำเราละเอียดยิบ เราก็เลยอุดหนุดข้าวไข่เจียวป้ากันคนละจานกินตุนไว้ก่อนจะได้ใช้แรงเดิน  เราเริ่มเดินไปตามทางที่ป้าบอกจนมาถึงทางขึ้น

ก่อนถึงซุ้มประตูทางขึ้นมีศาลเจ้าแม่ศรีประจันทร์เรากราบไหว้ของพรท่านให้เราเดินถึงชั้นบนสุด

หลังจากนั้นเริ่มเดินผ่านซุ้มพระพรหมกับพระอินทร์ขึ้นไป ตลอดเส้นทางจะมีป้ายบอกและให้กำลังใจตลอดทุกๆที่500ขั้น และจะมีเพิงขายน้ำตามจุดที่พัก ไว้ให้เราซื้อกินด้วย เราเดินไปจนถึงบันไดที่ 1,500 ขั้น เหนื่อยใจจะขาดขาก็ปวดท้อใจมากจนอยากจะร้องไห้ออกมา มีแค่ผู้ชายที่ไปกับเราเนี่ยแหละที่คอยให้กำลัง เอากระเป๋าเป้ของเราไปแบกให้

ถึงตอนนี้เข้าใจที่ว่าพิสูจน์รักแท้มันคืออย่างงี้ไง ถ้าเค้าไม่รักเราจริงไม่ห่วงเราจริงเค้าคงไม่ทำแบบนั้นกับเราหรอก แค่ลำพังเดินตัวคนเดียวยังแย่เลย เพราะกำลังใจจากเค้าเราเลยเดินถึงบันไดขั้นที่ 3,790 ขึ้นไปข้างบนวิวสวยมาก รู้สึกมันคุ้มค่ามากที่ได้มา จากนั้นเราไปไหว้รอยพระบาท เจ้าแม่กวนอิม และลงไปขอพรเจ้าแม่ที่อยู่ในถ้ำ เสร็จแล้วก็พากันมาถ่ายรูปวิวสวยๆ ก่อนจะเดินลงด้านล่างด้วยความสุขใจ

จบทริปแห่งความประทับใจแล้ว สิ่งที่ได้ครั้งนี้ก็คือ ได้บุญ ได้ความสุข ได้ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และที่สำคัญได้แฟนค่ะ ใครจะเลียนแบบพาแฟนคุณไปพิสูจน์รักแท้แหมือนเราก็ได้ แต่ถ้ากลับมาแล้วเลิกกันก็อย่ามาโทษกันนะคะ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

อยากเที่ยวแต่เรานั้นไม่ค่อยมีเวลาหรือมีเวลาน้อยมากแนะนำให้หาวันหยุดในช่วงเสาอาทิตหน้าจะดีกว่าสำหรับคนที่มีเวลาน้อย ซึ่งเรานั้นจะรู้ได้อย่างไรว่าที่เที่ยวที่ไหนไกล้ที่สุดและเหมาะกับเวลาอันน้อยนิดของเราสำหรับที่เที่ยวนั้นมีอยู่มากมายหลายแห่งไกล้ๆกับกรุงเทพ

ซึ่งเรานั้นไม่รู้เลยว่ามีที่เที่ยวอะไรบ้างในจังหวัดกรุงเทพ

หากเรานั้นอยากไปเที่ยวหรือไปเช็คอินในกรุงเทพก็ควรตรวจสอบเส้นทางการเดินรถให้ดีๆเพราะในกรุงเทพนั้นจะมีปริมาณรถที่เยอะจึงไม่ค่อยสะดวกต่อการเดินทางนอกจากนี้เราจะรู้ได้อย่างไงว่ามีที่เที่ยวตรงไหนบ้างสำหรับในกรุงเทพ 

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไกล้สำหรับกรุงเทพนั้นจะมีทั้งเมืองหลวง

และคาเฟ่ให้เรานั้นได้เช็คอินกันไม่มีเบื่ออีกทั้งยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องของอาหารการกินจึงจัดเป็นอันดับตัวๆของเมืองที่มีสตรีทฟู้ดอย่างเช่น ตลาดพลู ที่มีขนมเปาะเปี๊ยะสด ให้เรานั้นได้ลองชิมและหากท่านใดที่เป็นสายในการกินบอกเลยว่าต้องรักกรุงเทพมากๆเพราะเต็มไปด้วยร้านค้าที่อร่อย อย่างเช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ กั้งดอง ปูดอง และในด้านเสาชิงช้านั้นก็มีของอร่อย อย่างเช่น ปลาหมึกย่าง จะแน่นไปด้วยร้านที่อร่อยมากมาย

สำหรับที่เที่ยวที่ไกล้กรุงเทพอีกหนึ่งที่นั้นจะเป็น หัวหิน

ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลที่ไกล้กับกรุงเทพที่ฮิตกันตลอดทั้งปีเพราะเราสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกอีกทั้งยังมีที่พักหลากหลายที่ให้เรานั้นได้เลือกพักหรือหากใครนั้นอยากนอนบ้านพักน่ารักๆที่ติดชายทะเลก็มีให้เรานั้นได้เลือกอย่างเช่น บ้านกางมุ้ง อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบศีรีขันธ์หรือถ้าอยากนอนบ้านพัก5ดาวที่มองเห็นทะเลก็มีเช่นSoSofitel Hua Hin อำเภอชะอำ จังหวัดประจวบศีรีขันธ์

นอกจากนี้ที่หัวหินนั้นยังมีที่เที่ยวอย่างอื่นให้เดินเล่นอย่าง ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ที่มีของอร่อยๆและของกินอีกมากมาย นอกจากนี้ที่หัวหินนั้นยังไม่หมดเพียงแค่นี้ยังมีสวนน้ำให้เรานั้นได้เล่นคลายร้อนอย่าง Vana Nava Water Jungle อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบศีรีขันธ์

ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวแบบเขาหรือทะเล หากคุณเป็นบุคคลที่ชอบท่องเที่ยวควรเป็นอย่างยิ่งที่จะไปชมวิวทิวทรรศต่างๆเพราะสมัยนี้ที่เที่ยวเยอะแยะมากแต่เราก็ไม่ได้จะหาสถานที่ที่มีความสวยงามเหล่านี้ได้อีกเมื่อไหร่ ดังนั้นหากมีเวลาว่างพอก็ชวนคนที่คุณรักหรือครอบครัวไปเที่ยวเถอะ เพราะสิ่งที่เราได้ไปเห็นหากนำคนในครอบครัวไปด้วยคงสนุกไม่น้อย

อย่างน้อยก็ได้ใช้เวลาว่างอยู่กับครอบครัวอย่างอบอุ่น ซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆหรอกหากอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นสิ่งนี้คือสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

ทริปกิจกรรมไหว้ในวันหยุด

กิจกรรมไหว้พระ 9 วัดพร้อมความหมายดีๆที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

             สำหรับการไปขอพรไหว้พระ เราควรจะรู้ความหมายของวัดแต่ละที่ว่า ชื่อวัดในแต่ละวัดมีความหมายเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้เน้นขอพรพระให้ตรงกับชื่อขอวัด ซึ่งโดยปกติแล้วการไหว้พระที่คนส่วนใหญ่จะเน้นความเป็นสิริมงคล ก็จะเน้นไหว้พระให้ครบ 9 วัดในหนึ่งวันซึ่งอันที่จริงการไหว้พระไม่จำเป็นต้องกะเกณฑ์แบบนั้นก็ได้

หากเรามีเวลาไม่มากจะทำบุญวันละ วัดหรือสองวัดก็ได้แต่หากใครที่มีเวลาว่างมากพอหากทำบุญครบ 9 วัดก็จะถือว่าเป็นมงคลให้กับชีวิตเป็นอย่างมาก

เรามาดูวัดที่คนส่วนใหญ่ต่างพากันมากราบไหว้พร้อมความหมายดีๆของวัดแต่ละวัดกันค่ะ

  1. ศาลหลักเมือง ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งคนที่มากราบไหว้ที่นี่มักจะเน้นการขอเรื่องการตัดเคราะห์ปัดเป่าทุกข์โศก และการขอพรให้ชีวิตมีแต่ความสุขความเจริญ ศาลหลักเมืองจะอยู่ตรงบริเวณด้านข้างของพระบรมมหาราชวัง อยู่ตรงหัวมุม เปิดให้เข้าเวลา 05.30 -19.30 น.
  2. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เราเรียกกันว่าวัดพระแก้วมรกต วัดแห่งนี้คนที่มากราบไหว้มักจะมาขอให้ร่ำรวยมีแก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมา จะเปิดให้เข้ากราบไหว้เวลา 08.30-16.00 น.
  3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่เรียกติดปากว่าวัดโพธิ์ ผู้คนที่มาวัดนี้ส่วนใหญ่จะขอเรื่องความร่มเย็นเป็นสุข เปิดให้กราบไหว้เวลา 08.00-16.00 น.
  4. ศาลเจ้าพ่อเสือ สำหรับที่นี่ผู้คนที่มากราบไว้จะเน้นขอเรื่องการมีบารมี มีอำนาจ เป็นการเสริมบารมีให้กับตัวเอง เปิดให้กราบไหว้เวลา 08.00-16.00 น.
  5. วัดสุทัศนเทพวราราม สำหรับวัดนี้จะเน้นขอพรเรื่องการมีเสน่ห์ ให้คนรักใคร่ และขอพรความสิริมงคลให้มีวิสัยทัศน์ที่ดี เปิดให้เข้าไปไหว้เวลา 08.00-16.00 น.
  6. วัดชนะสงคราม  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องขอเรื่องการชนะอุปสรรคทุกอย่างมีชัยกับทุกสิ่ง เปิดให้เข้าไปขอพรไหว้พระเวลา 8.00-16.00 น.
  7. วัดระฆังโฆษิตาราม  ที่วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องการให้พรเกี่ยวกับการมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่นิยมชมชอบของคนอื่น ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนเข้าไปกราบไหว้ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
  8. วัดอรุณราชวราราม  วัดแห่งนี้จะให้พรเรื่องการมีชีวิตที่รุ่งโรจน์ ร่ำรวย มีชีวิตที่สว่างไสวทำอะไรก็สำเร็จ ซึ่งประชาชนสามารถเข้ากราบไหว้ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
  9. และวัดสุดท้ายที่จะแนะนำคือวัดกัลยาณมิตร  ซึ่งจะเน้นให้พรเรื่องการเดินทางไปไหนก็จะแคล้วคลาดปลอดภัย โชคดีมีชัยตลอดทั้งปี เปิดให้กราบไหว้ตั้งแต่ 08.00-16.00 น.

เทศกาลท่องเที่ยวงานวินเทอร์เฟส 2019 At Hongkong

สำหรับใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวต่างประเทศ ปีใหม่อยากไปดูดอกไม้ไฟสวยๆ

แต่ก็ไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายมากนักเพื่อช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่เมืองไทยก็ไม่อยากเที่ยวเพราะเที่ยวครบหมดแล้ว ดังนั้นอยากชวนให้ลองไปเที่ยวชมไฟที่ฮ่องกงกันค่ะ สำหรับในช่วงนี้ถึง 1 มกราคม พ.ศ. 2563 ที่ประเทศฮ่องกงเขากำลังจัดงาน Hongkong WinterFest 2019 ซึ่งที่จริงมันก็เหมือนเป็นงานต้อนรับช่วงที่เทศกาลปีใหม่นั่นละคะ

เขาจะมีการแสดงต้นคริสต์มาสที่สูงถึง 18 เมตรเป็นรูปเรขาคณิตด้วยนะคะ แถมประดับไฟเต็มต้นสวยมากเลยค่ะ

เราสามารถไปยืนโพสต์ท่าสวยๆถ่ายรูปตลอด โดยปกติเวลาในตอนกลางคืนที่ฮ่องกงเขาก็ติดไฟตามตึกมีการแสดงแสงสีเสียงให้ชมกันทุกวันอยู่แล้ว แต่ถ้าไปเที่ยวช่วงนี้ จะสวยงามกว่าปกติมาค่ะ เพราะทั้งตึกเล็กตึกใหญ่ต่างก็พากันออกมาประดับไฟที่ตึกให้เกิดความสวยงามในตอนกลางคืน แถมยังมีการจุดพลุเฉลิมฉลองเรียกได้ว่าจัดแบบอลังการงานสร้างมากๆเอาเป็นว่าหากใครอยากถ่ายรูปสวยๆก็ไปแถว  North Statue Square อยากบอกว่าถ้าไปอยู่ตรงนั้น จะเห็นไฟจากต้นคริสต์มาสรวมถึงไฟจากตึกต่างๆ

ส่องแสงวิปบวับวิบวับแข่งกันเลย นอกจากไฟประดับจะเยอะแล้ว ยังมีการแสดงระดับโลกให้ชมกัน นั่นก็คือ การแสดง แสงสีพร้อมกับเปิดเพลงประกอบให้เราเห็นเหมือนว่าแสงสีที่เขาส่องออกมานั้นกำลังเต้นตามจังหวัดเสียงเพลงที่เปิด หากใครได้ไปเห็นจะรู้เลยว่าไม่อาจละสายตาไปจากตรงนี้ได้เลย และจุดที่โรแมนติกสำหรับรักอีกจุดหนึ่งเชียวคะ

ที่สำคัญไหนๆก็ไปเที่ยวต่างประเทศทั้งทีแล้ว อยู่เคานต์ดาวน์ที่ฮ่องกงเลย ปีหนึ่งจะมีสักครั้ง

โดยงานในปีนี้ทางการฮ่องกงจะจัดให้มีการเคานต์ดาวน์ที่อ่าววิกตอเรีย ที่เราไปยืนยันแสงไฟเต้นระบำนั่นละค่ะ ปกติวันธรรมดาว่าสายแล้วเคยดูจากในโทรทัศน์งานเคานต์ดาวน์ของประเทศฮ่องกงนี่ก็สุดยอด น่าไปชมของจริงมากๆค่ะ อีกทั้งยังสามารถนั่งรถชมไฟและพลุสวยๆได้อีกด้วย อ้อลืมบอกไปว่า เขาจุดพลุเป็นร้อยๆลูกเลยนะคะ สีสันต์สวยงามอลังการมาก หากไม่ได้ไปน่าเสียดายแย่ หมดจากงานเทศกาลเคานต์ดาวน์แล้ว

ยังมีที่ไหนเที่ยวกันกลับประเทศไทยอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น ดิสนีย์แลนด์  โอเชียน ปาร์ก หรือพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ หรือ นองปิง 360 ที่พูดมานี่ยังไม่อีกเยอะที่ยังไม่ได้กล่าวถึงนะคะ ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง รวมถึงอาหารอร่อยๆอีกมากมาย