รถม้าลากชมเมือง

รถม้าลากชมเมือง การเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเที่ยวกับสัตว์

คงต้องถือว่าในการท่องเที่ยวด้วยสัตว์ทั้งหมดที่ได้รู้มาทั้งหมด การนั่งรถม้าให้ลากชมเมืองต้องบอกว่าเป็นอะไรที่เบาสุดและ แล้วก็น่าจะไม่ถึงกับทรมารมากนะ และอีกอย่างเรื่องของม้านั้น ตั้งแต่ในอดีตกาล มันก็คือสัตว์ที่มีไว้เพื่อเป็นยานพาหนะอยู่แล้วล่ะ แล้วมันก็เหมือนกับว่าถูกฝึกมาแบบนั้นชั่วลูกชั่วหลาน เชื่อว่าม้าที่พหานะทั้งหมดนั้นน่าจะอิจฉาม้าป่ากันเป็นแถวแนวๆละ มีทั้งอิสระ แล้วแถมยังมีความพยศในตัว เป็นดังสัตว์ที่ไม่สนหน้าอินหน้าพรหมอะไร เรียกได้ว่าฝึกยากนั้นเอง ต่างกับม้าทั่วไปที่เราเห็นเป็นยานพาหนะนั้น ค่อนข้างจะเป็นสัตว์ที่มีความคิดความอ่านที่น้อยมากๆ

ถูกฝึกมาให้เพียงเชื่อฟังชั่วลูกชั่วหลาน แล้วไม่ว่าจะประเทศไหนก็มีม้าเป็นพาหนะมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดังนั้นแล้วคงต้องบอกว่าเรื่องนี้คงลำบากมากๆที่จะไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ก็คงไม่ต้องทำอะไรนักหรอก แต่อย่างไรก็ตามเราก็ต้องมารู้ความจริงกันหน่อยเกี่ยวกับธุรกิจความบันเทิงอันนี้

ม้านั้นเป็นสัตว์ที่เกิดมาเป็นยานพาหนะตั้งแต่ก่อนยุคต่างๆเสียๆอีก ไม่ว่าจะสมัยไหน ก็ใช้ม้ามาตลอด ยิ่งยุคสงครามในสมัย จินซีฮ้องเต้ ก็ใช้ม้าเป็นหลักในการเดินทางอันแสนกว้างและไกลมากๆเพื่อไปรบแย่งชิงแคว้นกัน แล้วก่อนที่จะมีรถที่มีเครื่องยนต์วิ่งเองได้ ไม่ว่าชาติไหนก็ต้องใช้ม้าในการเดินทางด้วยกันทั้งนั้น เพียงแค่มีการเปลี่ยนแปลงตามเรื่องตามราวแบบ จากขึ้นบนหลังม้า มาเป็นลากเกวียน จริงอยู่ที่หลายๆครั้งเราจะเห็นม้าที่ลากอะไรที่หนักและใหญ่เกินไป ทำให้มันต้องทนทรมานอย่างมากก่อนที่จะถึงที่หมาย แล้วก็อีกตามเคยที่ม้านั้นไม่สามารถพูดหรือบ่นอะไรได้เหมือนสัตว์ทุกตัวบนโลก

กว่าเราจะพอรู้ว่ามันเริ่มเป็นอะไรไป ก็มีอาการบาดเจ็บแล้ว ม้าส่วนมากนั้นเมื่อมีอาการบาดเจ็บก็จะเริ่มนำมาใช้งานยากขึ้น เพราะเดินทางไกลไม่ได้ จะทำให้อาการบาดเจ็บกลับมาแล้วก็ค่อยๆเรื้อรังขึ้นเรื่อยๆ ถึงอย่างไรก็ตามมันก็คือสิ่งมีชีวิต มีความคิดและความรู้สึก ดังนั้นแล้วการใช้งานมันหนักเกินไปอาจจะทำให้มันเครียดจนกลายเป็นม้าเก็บกดได้ อีกทั้งการลากเลื่อนชมเมืองนั้น ม้าจะถูกแต่งองค์ทรงเครื่องเยอะแยะซึ่งมันรัดตัวม้าอยู่ทั้งวัน ไม่ว่ามันจะร้อนหรือฝนตกก็บ่นอะไรไม่ได้ ถ้าลูกค้าจะนั่งก็ต้องพาไปอยู่ดี ดังนั้นแล้วเราจะเห็นได้บ่อยๆว่าม้านั้นจะน้ำตาไหลให้เห็นนั้นเอง

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  รู้ทันบาคาร่า

สวนสนุก

สวนสนุกจัดเป็นสถานที่ที่ให้ความบันเทิงใจและสนุกสนานเพราะแฟนเครื่องเล่นสนุกสนานมากมายมีทั้งหวาดเสียวแหละเครื่องเล่นที่ผ่อนคลายเช่นสวนสนุกนะแต่ก่อนก็ไม่ค่อยรักเธอหรือเร้าใจเหมือนในสมัยนี้ เพราะว่าในสมัยก่อนยังไม่มีเทคนิคการฟังเครื่องเล่นที่ทำให้ปลอดภัยกับผู้เล่นได้จึงทำได้แค่มีแต่ สไลด์เดอร์ ม้าหมุนรถไฟแต่ในปัจจุบันนี้โลกได้เปลี่ยนไปอย่างมากสวนสนุกเริ่มมีวิวัฒนาการและพื้นฟูพัฒนาจนเป็นสวนสนุกที่ใหญ่โตและมองไปแล้วดูน่าเล่นน่าสนุกมีเครื่องเล่นหวาดเสียวมากมายและเป็นสวนสนุกที่ใหญ่กว่าเดิม

โดยที่ไม่เหมือนในอดีตเลย สวนสวนสนุกที่คนไทยเรารู้จักกันมากที่สุดในประเทศไทยก็คือ สวนสยามทะเลกรุงเทพเเละสวนสนุกดรีมเวิลด์ เพราะทั้งสอง สวนสนุกนี้ ก็มีขนาดใหญ่หรือแตกต่างกันออกไปบางส่วน สวนสนุกมีของเล่นแบบนี้ เเต่ในสวนสนุกแบบนั้นไม่มีของเล่นแบบนี้ก็เป็นไปได้เหมือนสวนสนุกที่สวนสยามมีทะเลเทียมแต่ที่สวนสนุกดรีมเวิร์ล ไม่มีทะเล เเต่มีเครื่องเล่นที่หลากหลาย มากกว่าสวนสยาม ซึ่งสวนสนุก จะเป็นสวนที่ไห้ความสนุกสนาน เเละไห้ความตื่นเต้น ไห้กับผู้ที่มาเล่น สวนสนุก ก็จะมีพวกเครื่องเล่นต่างๆมากมาย เช่น บ้านผีสิง ที่ไห้ความน่ากลัวเเก่ผู้ที่มาเล่น

ซึ่งแต่ละสวนสนุกก็จะ มีบ้านผีสิงที่แตกต่างกันออกไปบางสวนสนุกก็น่ากลัวมาก บางสวนสนุกก็น่ากลัวน้อย แล้วแต่สถานที่และเจ้าของสวนสนุกเเละการออกเเบบที่จะออกแบบมาให้เป็นแบบนั้น ในสวนสนุกก็จะมีเครื่องเล่นต่างๆมากมายอย่างเช่น ม้าหมุน ไวกิ้ง รถไฟเหาะ การล่องแก่งและผจญภัยต่างๆ และมีกิจกรรมของเด็กๆมากมาย เครื่องเล่นก็สามารถให้เด็กเล็กและเด็กโตเล่นได้และก็มีผู้ปกครองดูแลอยู่ใกล้ชิดได้

เละมีพนักงานประจำเครื่องเล่นต่างๆที่สามารถดูเเลเราได้ ในสวนสนุก ไม่ได้มีเเค่เครื่องเล่นที่มากมาย เเค่นั้น ยังมีของกินที่หลากหลายต่างๆ ขายภายในสวนสนุก ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ของกินขนาดใหญ่ อาหารอร่อยๆ ไห้เราเลือกซื้อเลือกกินได้ เวลาที่เล่นสวนสนุกมา เเล้วหิว ก็มาหากินได้ที่ตรงนี้ ส่วนของกิฟช็อปก็มีขายทั่วๆไป มีทั้งของเเปลกใหม่ เเละของใช้

 ส่วนมากจะเป็นของเเนวตกเเต่งไห้กับตัวเอง ของเเปลกๆ ของเล่นเด็ก สวนสนุกเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวของใครหลายคน ในเวลาว่างและสวนสนุกชอบจัดโปรโมชั่นต่างๆ คือ บัตรส่วนลดราคาในการเล่นเครื่องเล่น เเละบัตรเล่นสวนสนุกก็มีหลากหลายราคา ราคาสูงหน่อยก็จะเล่นได้ทุกอย่าง ราคาต่ำหน่อยก็เล่นได้บางเครื่องเล่น

วันแห่งความรักพาแฟนไปเที่ยวไหนดี

สำหรับคู่รักที่มีความรักกันไม่ว่าจะเป็นเพิ่งเริ่มจีบหรือเป็นแฟนกันมานานแล้ว หรืออาจจะคบกันมาหลายปี เราเชื่อว่าวันวาเลนไทน์นั้นทุกคนคงไม่ปล่อยให้มันเป็นแค่วันธรรมดา เพราะหากพูดถึงบุคคลที่รักแฟนพวกเขาก็มักจะเตรียมหาสถานที่ที่จะมีการพาแฟนของเขาไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อเป็นการสวีตกับแฟนของเขานั่นเอง และสถานที่เหล่านั้นที่คุณจะพาแฟนไปวันนี้เราได้นำมาเสนอเผื่อเป็นทางเลือกที่จะพาแฟนไปอวดและไปถ่ายภาพสวยๆเก๋ๆเพื่อเป็นที่ระลึกกัน

สำหรับสถานที่ที่แนะนำให้พาแฟนไปเที่ยวมีดังนี้

ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน สำหรับคู่รักที่ต้องการความโรแมนติกนั้นต้องไปสถานที่นี่เลยคะ เพราะเป็นที่เงียบสงบห่างไกลความวุ่นวาย เป็นการไปก้างเต้นนอนกับคนรู้ใจ หากิจกรรมทำ เป็นการสวีตแบบธรรมชาติ โดยสถานที่นี่ต้องเหมาะกับคู่รักที่ต้องการเป็นการส่วนตัวนะ เพราะมีแต่ป่าเขาแม่น้ำ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นส่วนตัวเหมาะกับคนที่รักกันมากอยากอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง

ภูลมโล เลย สำหรับที่นี่เป็นที่ที่เหมาะแก่การถ่ายรูปคู่รักมากที่สุด เพราะที่นี่มีการปลูกต้นต้นนางพญาเสือโคร่งหรือต้นซากุระเมืองไทยไว้เต็มป่าเลยแหละ เรียกได้ว่าหันไปทางไหนก็เจอแต่สีชมพู และเป็นอะไรที่หวานสุดๆ เหมาะสมกับคู่รักที่มีความหวานต้องการสวีต แต่นั้นก็ต้องที่จะชอบถ่ายภาพด้วยนะ เพราะสถานที่เหล่านี้เหมาะแก่การถ่ายภาพคู่รักเพื่อเอาไว้อวดคนอื่นๆให้อิจฉากันไปเลย

สวนผึ้ง ราชบุรี  สำหรับสถานที่นี่เหมาะแก่คู่รักที่ชอบผจญภัยและชอบสัตว์เพราะมันเป็นการไปเที่ยวฟาร์มเป็นการพาคู่รักเดินทางเพื่อเป้นการชมความสวยงามของสัตว์ขนาดต่างๆ เหมาะแก่ครอบครัวด้วยนะยิ่งมีลูกเล็กๆที่กำลังสนใจอยู่ละก็ที่นี่เหมาะแก่พวกเขามาก เพราะมันเป็นการเดินเล่นและชมวิวทิวทัศน์เพื่อเป้นการสานความสัมพันธ์ของครอบครัว นอกจากนั้นยังมีตลาดน้ำ หรือการให้อาหารแก่สัตว์ต่างๆด้วยนะ

ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต จันทบุรี  สำหรับสถานที่นี่เหมาะแก่คู่รักที่มีความชื่นชอบในวิวและทะเล เพราะเป็นสถานที่ที่เห็นทะเลสวยงามน้ำเป็นสีครามสวยมาก เหมาะแก่การสวีตแบบสวยๆเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพวิวหรือการใส่ชุดว่ายน้ำโชว์หุ่นและเรือน่างของตน ซึ่งต้องบอกว่าหากจะไปเที่ยวที่นี่จะต้องเป็นแฟนที่กำลังจีบใหม่ๆหรือกำลังคบหาดูใจแบบที่จะต้องการการเอาใจใส่กัน เพราะไปทะเลทั้งทีจะปล่อยให้เหงาได้ไงเนอะ สำหรับใครที่ได้สถานที่ท่องเที่ยวแล้วอย่าลืมที่จะถ่ายรูปคู่มาอวดกันบ้างนะคะ

รวมพลน้ำตกของจังหวัดนครนายก – จังหวัดสระบุรี

วันนี้เราจะมาแนะนำน้ำตกที่น่าเที่ยวไปในฤดูร้อนเราจะมาดูกันว่าน้ำตกอะไรที่มีความงามและน่าไปเที่ยวกันบ้าง

 น้ำตกซับเหวที่จังหวัดสระบุรีน้ำตกซับเหวตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรีเป็นน้ำตกที่น้ำจะไหลลงมาจากหน้าผาซึ่งหน้าผานี้มีความสูงเราราวประมาณ 30 เมตรซึ่งรอบรอบของน้ำตกก็จะเป็นป่ามีต้นไม้เขียวคะจีซึ่งจะมีแอ่งน้ำที่มีขนาดใหญ่มากๆอยู่ด้านล่างของน้ำตกนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถลงเล่นน้ำได้และสิ่งที่ทำให้น้ำตกที่ดังคือตรงกลางใส่น้ำตกที่ไหลลงมานั้นจะมี ทำทำหนึ่งอยู่ด้านไหนซึ่งจะเป็นตรงลึกลงไปกลางหน้าผาและทางด้านขวาของน้ำตกก็ยังมีโพรงถ้ำซึ่งมีหินย้อยหิวย่ามในและเมื่อเข้าไปก็ต้องขอบอกเลยว่ามีความงามมากๆดูลึกลับแต่ก็น่าค้นหา

 

น้ำตกคลองมะเดื่อจังหวัดนครนายกสำหรับน้ำตกคลองมะเดื่อเป็นน้ำตกที่เกิดขึ้นจากคลองมะเดื่อซึ่งเป็นลำธารสายเล็กๆที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในตอนแรกลำธารนี้รอบรอบจะมีธรรมชาติที่งดงามเงียบ สงบแต่ในปัจจุบันหลังจากที่มีคนรู้จักก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังมากทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะมากความสงบที่เคยเงียบก็ได้หายไปแต่กายเป็นน้ำตกที่มีความลั้นลาและน้ำตกนี้ขึ้นชื่อเป็นน้ำตกที่คนมาเที่ยวมากของจังหวัดนครนายกซึ่งน้ำตกนี้อยู่ห่างจากน้ำตกวังตะไคร้ประมาณ 1.5 กิโลเมตรแค่นั้น

 

น้ำตกสาริกาที่จังหวัดนครนายกสำหรับน้ำตกสายนาฬิกาเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่มากซึ่งน้ำตกนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่น้ำตกนี้จะมีน้ำไหนตลอดปีไม่มีวันหยุดใส่น้ำจะไหลตกจากหน้าผาซึ่งรมรวมแล้วก็มีประมาณเก้าฉันหาที่สูงที่สุดความสูงก็จะประมาณ 200 เมตรแต่ละชั้นจะมีอ่างรับน้ำที่กว้างมากแล้วจะมีน้ำเยอะมากก็คือในช่วงฤดูฝนไปจนถึงปลายฝนและตอนเข้าฤดูหนาวแรกแรก ซึ่งเหมาะแก่การที่จะให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมคุณสามารถเล่นน้ำถ่ายภาพคู่กับน้ำตกซึ่งก็ทำให้ได้รู้สึกถึงบรรยากาศแต่ก็ต้องระวังกันหน่อยเพราะน้ำที่นี่ในช่วงฤดูฝนก็ไหลแรงมาก

 

น้ำตกเหวสุวัตที่เขาใหญ่สำหรับน้ำตกเหวสุวัตเดาได้เลยว่าหลายคนอาจจะไม่รู้จักน้ำตกเหวสุวัตตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งตั้งอยู่สุดถนน ธนะรัชต์ซึ่งน้ำตกนี้มีลักษณะเป็นสายน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงซึ่งนับดูแล้วก็สูงราวประมาณ 20 เมตรเศษเศษบริเวณด้านล่างของน้ำตกจะเป็นแอ่งน้ำและจะเป็นลำธารคุณสามารถลงไปแช่ตัวในน้ำที่เย็นๆเหมาะกับการไปเที่ยวในฤดูร้อนเป็นอย่างมากหรือถ้าอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศคุณก็สามารถขึ้นไปชมวิวบนหน้าผาและมองลงมาจากมุมสูงก็มีความงดงามมากเหมือนกันซึ่งที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเพราะว่าน้ำตกนี้ตั้งอยู่ลึกมากๆทำให้ ไม่ค่อยมี ใครรู้จัก

อาหารที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวที่ฮ่องกง

ประเทศฮ่องกง ประเทศที่เรารู้จักและขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องของการไปไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้สมปรารถนา แต่ประเทศฮ่องกงนั้นยังมีอีกหนึ่งอย่างที่มีชื่อเสียงอย่างมากๆนั้นก็คือเรื่องของอาหาร จนใครๆต่างก็บอกกันว่าเป็นประเทศที่มีอาหารอร่อยล้ำเลิศ จนถึงกับที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนจัดทริปมาเที่ยวที่ประเทศฮ่องกงเพื่อมาตระเวนไปในเมืองและกินอาหารอร่อยๆมากมายโดยเฉพาะ ซึ่งอาหารที่ฮ่องกงก็ต้องมีสูตรเฉพาะของฮ่องกง

โดยเรามาดูกันค่ะว่ามาเที่ยวที่ฮ่องกงทั้งทีมีอาหารอะไรที่เราไม่ควรพลาดบ้างค่ะ

  1. ติ่มซำ เมนูสุดขึ้นชื่อลือชาอันดับหนึ่งที่ใครมาฮ่องกงเป็นต้องกินทุกราย ติ่มซำคือของนึ่งต่างๆที่เสิร์ฟมาประมาณ 3 – 4 ลูกในเข่งไม้ไผ่เล็กๆ โดยของนึ่งที่เป็นที่นิยมก็จะมี ฮะเก๋า ขนมจีบ ซาลาเปา หมั่นโถว เสี่ยวหลงเปา ก๋วยเตี๋ยวหลอด ซี่โครงหมู ฝั่นโก๋ กุ๊ยช่าย และยังมีพวกของทอดทั้ง เปาะเปี๊ยะทอด ซาลาเปาทอด ฟองเต้าหู้ทอด ฯลฯ ส่วนใหญ่ติ่มซำมักกินคู่กับน้ำชาร้อนๆค่ะ
  2. ลูกชิ้นปลา ที่ประเทศฮ่องกงนั้นถือว่าเป็นของว่างไว้ทานเล่น ซึ่งหาได้ง่ายมากๆตามสตรีทฟู๊ดส์ โดยมีมาตั้งแต่ช่วงยุคปี ค.ศ. 1950 ส่วนใหญ่แล้วจะนำไปทอดและทานกับน้ำซอสเผ็ดหรือหวานค่ะ  บางครั้งก็จะเจอลูกชิ้นปลาในรูปแบบของส่วนประกอบสำคัญในเมนูหม้อไฟ หรือ บะหมี่ร้อนๆ ซึ่งบอกได้เลยว่าราคาของลูกชิ้นปลานั้นมีตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง ยิ่งวัตถุดิบดีราคาก็สูงขึ้นตามค่ะ
  3. ชานมฮ่องกง ใครๆก็บอกว่าจะกินชานมไข่มุกต้องไปกินที่ไต้หวัน แต่รู้กันไหมคะว่าจริงๆแล้วที่ฮ่องกงนั้นเจ้าชานมนี่ก็ฮิตไม่แพ้กันเลย ชานมสไตล์ฮ่องกงนั้นจะใช้ใบชาดำซีลอน ผสมกับนมข้นหวานและน้ำตาล โดยตัวน้ำชาจะอยู่ด้านล่างและส่วนของนมจะอยู่ด้านบน ในปัจจุบันนี้คุณสามารถหาทานชานมได้อยู่ทั่วทุกหนแห่งในฮ่องกง เพราะชานมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมและชีวิตประจำวันของชาวฮ่องกงไปแล้วค่ะ
  4. ทาร์ตไข่ ขนมอบสุดป๊อบปูล่าร์ในประเทศฮ่องกง เป็นที่นิยมอย่างมากแม้ในคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว โดยทาร์ตไข่ในสไตล์ฮ่องกงจะทำจากเนย แป้ง และไข่ที่ถูกนำไปปรุงรสหวาน โดยเริ่มแรกนั้นมีที่มาจากการล่าอาณานิคมของโปรตุเกสในมาเก๊า จนมาถึงช่วงยุคปี ค.ศ.1940 ที่มีแพร่หลายตามร้านน้ำชาของฮ่องกงค่ะ แต่ตอนนี้คุณสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านเบเกอรี่ คาเฟ่ แล้วเหมือนกันนะค่ะ

ก็อยากให้ทุกคนไปลองชิมกันดูนะค่ะ

เมืองที่ไม่น่ามีคนอยู่ และ ยังมีความสวยงามน่าเหลือเชื่อ

ใครเป็นโรคกลัวความสูงกันบ้างการขึ้นไปยืนบนที่สูงๆหรือการได้เดินไปที่สูงๆนั้นสำหรับคนที่กลัวความสูงแล้วคุณองจะต้องขาสั่นกันเลยใช่ไหมแต่สำหรับพวกเขาเหล่านี้จะเป็นอะไรที่พวกเขาต้องมองข้ามมันไปอีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ธรรมดามากๆและนี้เราอยากให้มาดูเมืองสำคัญต่างๆที่มันต่างไปจากทั่วมุมโลกที่ต้องบอกเลยว่ามีทำเลทั้งสูงเอามากๆเลยและที่สำคัญเลยพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความงดงามอย่างหน้าเหลือเชื่อ

หมู่บ้านริมทะเล Cinpue Terre ltaly อิตาลี่   

 Cinpue Terre ltalyนั้นเป็นเมืองเก่าแก่ที่ได้ก่อตั้งมายาวนาน1300ปีซึ่งได้ตั้งอยู่แขวงริโกเรียซึ่งเป็นแขวงที่เล็กที่สุดของ ประเทศอิตาลี่ซึ่งได้ประกอบไปด้วยบ้านน่ารักๆ5หมู่บ้านที่สร้างอยู่บนหน้าผาและชายเขาเป็นสถานที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น หมู่บ้านของชาวประมงที่สวยที่สุดเลยจริงๆสำหรับการมาท่องเที่ยวที่นี้นั้นคุณจะได้ซึมซับกับบรรยากาศของพื้นเมือง น่ารักๆพร้อมกับความสวยงามของเมืองนี้ในยามเช้าของที่นี้จะมี่หมอกปกคุมไปทั่วหมู่บ้านแล้วก็ทะเลสาปและซึ่งพระอาทิตได้ขึ้นเป็นแสงสีทองก็จะเห็นได้ว่าเป็นภาพที่หน้าประทับใจเอามากๆเลยนะ

Bonifacio,France ของประเทศฝรั่งเศษ  

เป็นเมืองบนหน้าผาที่มีชื่อเสียงไม่น้อยไปกว่าเมืองอื่นๆ  เมืองแห่งนี้นั้นเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้คอสตาริกาซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ในอันดับที่4ในทะเลมะริดเด้อริเนี่ยซึ่งอยู่ในแขวงของฝรั่งเศษโดยเมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะคอสตาริกาด้วยชื่อเสียงนั้นที่มีชายฝั่งที่มีท่าเรือซึ่งถือได้ว่าเป็นการขนส่งหลักในส่วนของพื้นที่แถบนี้จึงส่งผลให้เกาะแห่งนี้เป็นจุดหมายกรท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งนั้นเองต้องบอกเลยว่ามันเป็นเมืองที่งดงามเอามากๆเลยทีเดียว

Tropoa, Italy   

เมืองแห่งนี้ติดกับทะเลไทเรเนียนซึ่งชาวอิตาลีรู้จักกันดีในนามชายหาดของพระเจ้าและที่มาของชื่อนั้นมันมาตั้งแต่สมัยความเชื่อโบราณของชาวบ้านที่ได้เล่ากันมาว่าเมืองนี้ได้ถูกก่อตั้งขึ้นโดยเทพที่เต็มไปด้วยกำลังอย่างเฮอร์คิวลีสซึ่งเมืองได้ตั้งอยู่บนหินผาที่สูงติดริมทะเลและยังมีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ7,000คนเท่านั้นอีกทั้งยังเป็นเมืองที่เงียบสงบและไม่มีผู้คนมากมายเท่าไรบอกได้เลยว่าคนที่กำลังคิดที่จะวางแผนที่จะไปท่องเที่ยวที่เมืองนี้แล้วบอกได้เลยจะได้เที่ยวอย่างสบายใจสุดๆเพราะที่นั้นมีทั้งความสวยงามและสถานที่เที่ยวและอาหารอร่อยๆเอาไว้รองรับคนที่มาท่องเที่ยว

พาเที่ยววัดร่องแซงจังหวัดสระบุรี

ฉันเกิดที่จังหวัดสระบุรีและโตที่จังหวัดสระบุรี

บ้านของฉันอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนวัดร่องแซงกุลไพศาลพิทยา โดยอยู่ฝั่งเดียวกับวัดร่องแซงตั้งแต่เล็กจนโตฉันก็เห็นว่า วัดร่องแซงตั้งอยู่ตรงจุดนี้อยู่แล้วซึ่งแต่เดิมเคยมีประวัติเราว่าว่าต้องแสงเคยอยู่อีกที่หนึ่งแต่ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างมีจำกัดและพระไม่สามารถออกมาบิณฑบาตได้จึงมีการย้ายวัดร่องแซงจากจุดเดิมมาไว้ตรงนี้

ซึ่งตรงแสงที่อยู่ในปัจจุบันจะอยู่ติดกับถนนใหญ่ในสมัยที่ฉันยังเป็นเด็กวัดยังมีขนาดเล็กยังไม่มีพื้นที่มากนักจะมีแค่โบสถ์ศาลาเพื่อให้พระได้ปฏิบัติธรรมเท่านั้นแต่มาในปัจจุบันเมื่อฉันได้ย้อนกลับไปฉันพบว่าที่วัดมีสิ่งก่อสร้างใหม่ใหม่ขึ้นมากมายและสิ่งที่ฉันเห็น คือการสร้างกุฏิการสร้างโบสถ์ เพิ่มขึ้นพื้นที่ของบริเวณวัดมีบริเวณเยอะมากขึ้น

ผู้คนนิยมมาทำบุญกันเยอะขึ้น

ซึ่งเจ้าอาวาสของวัดคนปัจจุบันมักจะมีการจัดงานตามเทศกาลต่างๆรวมถึงการจัดให้มีการฟังธรรมทำให้ประชาชนต่างก็สนใจที่จะทำบุญกันมากขึ้นในทุกๆปีเจ้าอาวาสจะมีการจัดทัวร์ให้ประชาชนเดินทางไปทำบุญตามวัดอื่นๆในจังหวัดอื่นๆซึ่งท่านจะเป็นคนพาไป ซึ่งถือว่าเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนหันมาสนใจการทำบุญกันมากขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วฉันได้พาลูกสาวไปทำบุญที่วัดแห่งนี้เพื่อทำบุญระลึกถึงพ่อของฉันเมื่อเราทำบุญเสร็จแล้วฉันได้เดินดูรอบๆบริเวณวัดพบว่านอกจากจะมีสิ่งก่อสร้างมากมาย

แล้วยังมีสถานที่ออกกำลังกายให้กับคนในชุมชนอีกด้วยและที่สำคัญมีสระน้ำที่เลี้ยงปลาไว้มากมายเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ตรงบ่อเลี้ยงปลานี่เองเราจะสามารถให้อาหารปลาได้โดยทางวัดจะมีอาหารปลาค่อยจำหน่ายให้กับผู้คนโดยคิดค่าหารปลาขวดละ 10 บาทซึ่งฉันคิดว่านี่คือสิ่งที่ดี

เพราะเราสามารถที่จะนำเงินบริจาคไปบำรุงรักษาวัด ส่วนปลาก็ได้ทานอาหาร  แม่เล่าให้ฉันฟังว่าในช่วงทุกเทศกาลวัดจะมีการจัดงานการละเล่นต่างๆซึ่งแต่เดิมเจ้าอาวาสคนก่อนมักจะไม่ค่อยให้มีการจัดงานอะไรทำให้คนไม่ค่อยอยากจะมาที่วัดกัน แต่เมื่อมีเจ้าอาวาสท่านนี้ย้ายเข้ามาวัดก็ดูมีสีสันมากขึ้นผู้คนพากันไปทำบุญมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่และคนชราในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็มีการนัดรวมตัวกันสวดมนต์ขอพรข้ามปีซึ่งสำหรับจะว่าคนเดิมไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน

คู่มือท่องเที่ยว มือใหม่หัดบิน

การเลือกที่พัก

      การเลือกที่พักถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะสามารถจัดแจ้งรายละเอียดเรื่องต่างๆตามความเหมาะสมของแต่ล่ะคน เช่น ถ้างบไม่จำกัดก็สามารถเนรมิตทุกอย่างได้อย่างตามใจฉัน อยากทำไรก็ได้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน 

แต่สำหรับคนงบน้อยการจะหาได้ที่พักราคาถูกในทำเลดีๆจะทำให้เรามีเงินเหลือสำหรับการเที่ยวมากขึ้นประหยัดเวลาในการเดินทางและสะดวกสบายยิ่งขึ้นทั้งนี้ที่พักไม่ใช่เพียงที่ซุกหัวนอนพักผ่อนเท่านั้น ซึ่งในบางครั้งที่พักประเภทต่างๆสามารถสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้เราได้ เพราะที่ญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่โรงแรมแบบธรรมดาทั่วไปแต่มีทั้งเรียวกังสุดคลาสสิคและโรงแรมแคปซูลที่พักแห่งอนาคตเป็นประสบการณ์ที่จะหาจากประเทศอื่นๆไม่ได้ และในการเลือกที่พักนั้น ควรเลือกที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟไว้จะดีที่สุด ก็เพราะจะทำให้เราง่ายต่อการเดินทางที่จะไปเที่ยวไปไหนมาไหนก็สะดวก หรืออยากจะไปเที่ยวเมืองอื่นๆอีกได้เช่นกัน 

ประเภทของที่พัก

นอนโรงแรม 

-Hotel โรงแรมแบบสากลทั่วไปมีหลากหลายทำเลที่ตั้งภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบมีให้เลือกหลายระดับต่างราคาตั้งแต่สองดาวขึ้นไปจนถึงห้าดาวขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าของเราส่วนใหญ่ราคาที่พักโดยประมาณคืนละ 10,000 ถึง 30,000 เยน

-Business hotel เป็นโรงแรมแบบสากลที่มีขนาดห้องค่อนข้างเล็กมีสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควรมีห้องน้ำส่วนตัวโรงแรมประเภทนี้ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ คนที่มาพักส่วนใหญ่มักเป็นนักธุรกิจสำหรับเครือโรงแรม Business hotelที่มีชื่อเสียงคือเครือโรงแรม Toyoko Inn ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีจุดเด่นที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟและมีอาหารเช้าให้ฟรีราคาโดยประมาณคืนละ 6000 ถึง 10,000 เยน

-Hostel หรือ Guest house ที่พักราคาประหยัดสุดสุดสำหรับคนที่พร้อมเปิดรับเพื่อนใหม่ใหม่เพราะที่พักประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องพักแบบพักรวมกันสองถึงสี่คน มีพื้นที่ส่วนกลางให้ดูทีวี ทำกับข้าวรวมกันทำให้ได้คุยรู้จักกับเพื่อนชาวต่างชาติอีกมากมาย ราคาโดยประมาณคืนละ 2000 ถึง 6000 เยน

การเตรียมตัวเที่ยวปีนเขาและเดินป่า

การเตรียมตัวเที่ยวปีนเขาและเดินป่ามีดังนี้

มีใครชอบการการเที่ยวแบบลุยๆ ผจญภัยไหมเอ่ย เชื่อเถอะว่าจะต้องมีแน่นอน ซึ่งการเที่ยวแบบผจญภัยนั้นมีหลากหลายการเที่ยว แต่ในบทความนี้เราก็มีคำแนะนำสำหรับการเที่ยวแบบผจญภัยเหมือนกันซึ่งจะเป็นการผจญภัยแบบปีนเขาและเดินป่า ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ท้าทายใช่ย่อยเลย มันคงจะเป็นประโยชน์มากๆสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มในการเที่ยวรูปแบบนี้ ฉะนั้นแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าจะมีอะไรบ้างที่คุณจะต้องเตรียมเอาไปในทริปการเที่ยวปีนเขาและเดินไปในครั้งนี้

1.ศึกษาและเรียนรู้การแคมปิ้งเบื้องต้น หลายคนคงจะเคยอ่านคู่มือสำหรับการออกไปเที่ยวแล้วตั้งแคมป์ ซึ่งนั้นอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณเข้าใจได้อย่างถ้องแท้ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือการทดลองทำจริงเพื่อให้มีความชำนาญอย่างเช่น ฝึกการประกอบเต็นท์ การจุดไฟ การทำอาหาร เป็นต้น

2.เลือกสถานที่ หากคุณเป็นมือใหม่ อย่าพึ่งเลือกสถานที่ที่มีความเสี่ยงหรือความท้าทายมากจนเกินไป สิ่งที่คุณควรคำนึกถึงคือ เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติให้มากที่สุด

3.อ่านแผนที่ เข็มทิศ ให้เป็น แน่นอนว่าการเดินป่านั้นจะไม่มีป้ายสัญลักษณ์บอกทางเหมือนบนท้องถนน การเดินทางในป่านั้นจะต้องอาศัยแผนที่ และ เข็มทิศ ในการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นแล้วคุณควรเรียนรู้เรื่องนี้เอาไว้ให้ดี

4.น้ำดื่ม ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเลยในการเที่ยวแบบผจญภัยแบบนี้ ถ้าหากขาดน้ำดื่มไปคือสิ่งที่แย่ที่สุดเลย เพราะกิจกรรมที่เรานั้นต้องใช้พลังงานเป็นอย่างมาก ร่างกายจะเกิดการกระหายน้ำขึ้นมา นี่จึงเป็นส่วนสำคัญที่เราจะขาดน้ำสักขวดเอาไปด้วย

5.ถุงเท้า และ รองเท้า ที่ซัพพอร์ตในการทำกิจกรรม การปีนเขาและการเดินป่ามักจะมีอุปสรรคหลากหลายอย่าง ซึ่งร่างกายของเราที่ถูกใช้เยอะในกิจกรรมเหล่านี้ก็คงหนีไม่พ้นเท้า ที่ใช้ในการเดินและการปีน เพื่อทำให้เรามีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ควรที่จะเลือกใส่ถุงเท้าและรองเท้าที่มีส่วนช่วยในการซัพพอร์ตเมื่อเราทำกิจกรรมพวกนี้

6.เลือกใส่เสื้อผ้าที่คล่องตัว การเที่ยวแบบผจญเหล่านี้หรือไม่ว่าจะแบบไหน เสื้อผ้าคือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการเที่ยวผจญนั้นจะต้องทำให้ตัวเองรู้สึกไม่อึดอัด พร้อมที่จะลุยอยู่เสมอ ควรใส่เสื้อผ้าที่มาความคล่องตัว สบาย ระบายอากาศ

7.อาหารระหว่างการเดินทาง กิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานในร่างกายในการทำกิจกรรมนั้น จะขาดอาหารไม่ได้เลยไม่อย่างนั้นแล้วเราคงไม่มีแรงระหว่างทำกิจกรรมแน่ๆ

8.อุปกรณ์ปฐมพยาบาล เป็นที่ทราบกันดีในการปีนเขาเดินป่านั้นมีความเสี่ยงและความท้าทายเป็นอย่างนั้น หากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา สิ่งแรกที่ควรทำคือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากร้ายแรงมากจึงค่อยนำตัวส่งโรงพยาบาล

9.แสงสว่าง ในการเดินป่าช่วงเวลากลางคืนแสงหลักจาธรรมชาติอย่างพระจันทร์คงไม่เพียงพออย่างแน่นอน คุณต้องพกไฟฉายไปด้วย และ การก่อกองไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่นและยังช่วยในการไล่สัตว์ป่าได้อีกด้วย

10.เตรียมความพร้อมและร่างกายให้ดี คุณต้องมั่นใจในตัวเองในการทำกิจกรรมครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เตรียมทางด้านร่างกายเท่านั้น แต่กิจกรรมเหล่านี้นั้นมีความท้าทาย คุณจะต้องเตรียมตัวเรื่องของจิตใจอีกด้วย ถ้าหากคุณยังไม่พร้อมก็อย่าพึ่งออกไปกิจกรรมเด็ดขาด

ท่องเที่ยวที่เขาวงพระจันทร์

ไปพิสูจน์รักแท้ที่เขาวงพระจันทร์

ตอนนี้ตามเพจต่างๆที่สนับสนุนการท่องเที่ยวต่างพากันโพสต์เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ไปร่วมงานประจำปีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์ ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 25 มกราคม จนถึง 8 กุมภาพันธ์ 2563  ทำให้เราหวนคิดถึงอดีตที่ผ่านมาหลายปีแล้ว เพราะคู่เราก็เป็นอีกหนึ่งคู่ที่ไปพิสูจน์รักแท้กันที่นั่น

วัดเขาวงพระจันทร์ ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดลพบุรี ความพิเศษของวัดนี้ก็ของการเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขาที่มีบันไดทั้งหมด 3,790 ขั้น เพื่อกราบไหว้รอยพระพุทธบาทและสักการะเจ้าแม่เกตุมณีศรีประจันต์ที่อยู่ในถ้ำ

ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน

ตอนนั้นสามีเพิ่งจะเข้ามาคุยจีบกันใหม่ๆยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกันนะ บังเอิญได้ยินเพื่อนๆที่ทำงานเค้าคุยกันเรื่องไปเที่ยวไหว้พระที่วัดเขาวงพระจันทร์ว่า ถ้าอยากรู้ว่าคนที่มาจีบเนี่ยจะเป็นคู่แท้ของเรารึเปล่าให้พาไปพิสูจน์รักแท้กันที่นั้น เราก็เลยเกิดไอเดียพาผู้ชายคนเนี่ยไป จำได้ว่าขับรถออกจากบ้านกันตีห้าไปถึงก็หกโมงครึ่ง จอดรถได้ก็ไปถามป้าที่ร้านค้าในวัดว่าเค้าต้องไปไหว้กันตรงไหน ป้าใจดีแนะนำเราละเอียดยิบ เราก็เลยอุดหนุดข้าวไข่เจียวป้ากันคนละจานกินตุนไว้ก่อนจะได้ใช้แรงเดิน  เราเริ่มเดินไปตามทางที่ป้าบอกจนมาถึงทางขึ้น

ก่อนถึงซุ้มประตูทางขึ้นมีศาลเจ้าแม่ศรีประจันทร์เรากราบไหว้ของพรท่านให้เราเดินถึงชั้นบนสุด

หลังจากนั้นเริ่มเดินผ่านซุ้มพระพรหมกับพระอินทร์ขึ้นไป ตลอดเส้นทางจะมีป้ายบอกและให้กำลังใจตลอดทุกๆที่500ขั้น และจะมีเพิงขายน้ำตามจุดที่พัก ไว้ให้เราซื้อกินด้วย เราเดินไปจนถึงบันไดที่ 1,500 ขั้น เหนื่อยใจจะขาดขาก็ปวดท้อใจมากจนอยากจะร้องไห้ออกมา มีแค่ผู้ชายที่ไปกับเราเนี่ยแหละที่คอยให้กำลัง เอากระเป๋าเป้ของเราไปแบกให้

ถึงตอนนี้เข้าใจที่ว่าพิสูจน์รักแท้มันคืออย่างงี้ไง ถ้าเค้าไม่รักเราจริงไม่ห่วงเราจริงเค้าคงไม่ทำแบบนั้นกับเราหรอก แค่ลำพังเดินตัวคนเดียวยังแย่เลย เพราะกำลังใจจากเค้าเราเลยเดินถึงบันไดขั้นที่ 3,790 ขึ้นไปข้างบนวิวสวยมาก รู้สึกมันคุ้มค่ามากที่ได้มา จากนั้นเราไปไหว้รอยพระบาท เจ้าแม่กวนอิม และลงไปขอพรเจ้าแม่ที่อยู่ในถ้ำ เสร็จแล้วก็พากันมาถ่ายรูปวิวสวยๆ ก่อนจะเดินลงด้านล่างด้วยความสุขใจ

จบทริปแห่งความประทับใจแล้ว สิ่งที่ได้ครั้งนี้ก็คือ ได้บุญ ได้ความสุข ได้ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และที่สำคัญได้แฟนค่ะ ใครจะเลียนแบบพาแฟนคุณไปพิสูจน์รักแท้แหมือนเราก็ได้ แต่ถ้ากลับมาแล้วเลิกกันก็อย่ามาโทษกันนะคะ